ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (18 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนมีความวิตกเกี่ยวกับการที่อังกฤษอาจแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (EU) โดยไม่มีการทำข้อตกลง (no-deal Brexit)
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลบ 0.13% ปิดที่ 414.38 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,222.16 จุด ลดลง 65.67 จุด หรือ -0.49% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,959.60 จุด ลดลง 8.66 จุด หรือ -0.15% ขณะที่ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,540.75 จุด เพิ่มขึ้น 15.47 จุด หรือ +0.21%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงโดยถูกกดดันจากการที่นักลงทุนมีความวิตกเกี่ยวกับ Brexit แบบไร้ข้อตกลง เนื่องจากนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เตรียมออกกฎหมายป้องกันไม่ให้มีการขยายเวลาช่วงเปลี่ยนผ่านของอังกฤษหลังจากแยกตัวจากสหภาพยุโรปเกินจากสิ้นปี 2563 โดยนายจอห์นสันจะเพิ่มบทบัญญัติหนึ่งเข้าไปในร่างกฎหมาย Brexit ซึ่งจะระบุห้ามการขยายช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านของอังกฤษเกินกว่าเดือนธ.ค. 2563 หลังจากที่อังกฤษแยกตัวจาก EU อย่างเป็นทางการในวันที่ 31 ม.ค. 2563
รายงานดังกล่าวสร้างความวิตกว่า ระยะเวลา 11 เดือนที่เหลืออยู่จะไม่เพียงพอสำหรับการเจรจาการค้าระหว่างอังกฤษและ EU ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะ no-deal Brexit ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในวงกว้าง
ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวของรัฐบาลอังกฤษมีวัตถุประสงค์เพื่อกดดัน EU ในการเจรจาการค้า และเพื่อเร่งกระบวนการทำข้อตกลงการค้า
หุ้นกลุ่มรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์นำตลาดปรับตัวลง อาทิ หุ้นคอนติเนนทัล ลบ 1.85%, หุ้นเดมเลอร์ ลดลง 1.45% และหุ้นมิชลิน ปรับตัวลง 1.78%