ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (18 ธ.ค.) เนื่องจากหุ้นกลุ่มส่งออกปรับตัวขึ้น โดยได้แรงหนุนจากเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลง ซึ่งช่วยชดเชยการร่วงลงของหุ้นที่เกี่ยวกับธุรกิจในประเทศ ซึ่งถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับการที่อังกฤษจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปแบบไร้ข้อตกลง (no-deal Brexit)
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,540.75 จุด เพิ่มขึ้น 15.47 จุด หรือ +0.21%
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวขึ้นตามหุ้นกลุ่มส่งออกซึ่งได้แรงหนุนจากเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลง แต่ตลาดปรับตัวขึ้นไม่มากนัก เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับ no-deal Brexit เนื่องจากนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เตรียมออกกฎหมายป้องกันไม่ให้มีการขยายเวลาช่วงเปลี่ยนผ่านของอังกฤษหลังจากแยกตัวจากสหภาพยุโรปเกินจากสิ้นปี 2563 โดยนายจอห์นสันจะเพิ่มบทบัญญัติหนึ่งเข้าไปในร่างกฎหมาย Brexit ซึ่งจะระบุห้ามการขยายช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านของอังกฤษเกินกว่าเดือนธ.ค. 2563 หลังจากที่อังกฤษแยกตัวจาก EU อย่างเป็นทางการในวันที่ 31 ม.ค. 2563
รายงานดังกล่าวสร้างความวิตกว่า ระยะเวลา 11 เดือนที่เหลืออยู่จะไม่เพียงพอสำหรับการเจรจาการค้าระหว่างอังกฤษและ EU ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะ no-deal Brexit และจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในวงกว้าง
ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวของรัฐบาลอังกฤษมีวัตถุประสงค์เพื่อกดดัน EU ในการเจรจาการค้า และเพื่อเร่งกระบวนการทำข้อตกลงการค้า
หุ้นกลุ่มส่งออกปรับตัวขึ้น อาทิ หุ้นฮิคมา ฟาร์มาซูติคอลส์ พุ่ง 4.11%, หุ้นแอชทีด กรุ๊ป บวก 2.49% และหุ้นอิมพีเรียล แบรนด์ เพิ่มขึ้น 2.41%