ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนได้พากันเข้าซื้อหุ้นหลังจากที่สภาสามัญชนหรือสภาล่างของอังกฤษลงมติเห็นชอบในหลักการกับร่างกฎหมายว่าด้วยการแยกอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ในวันที่ 31 ม.ค. 2563 ซึ่งได้ช่วยขจัดความไม่แน่นอนที่ส่งผลกระทบต่อตลาดมากว่า 3 ปี นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนด้วย
ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.80% ปิดที่ 418.40 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,021.53 จุด เพิ่มขึ้น 49.26 จุด หรือ +0.82%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,318.90 จุด เพิ่มขึ้น 106.94 จุด หรือ +0.81% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,582.48 จุด เพิ่มขึ้น 8.66 จุด หรือ +0.11%
ตลาดได้แรงหนุนหลังนักลงทุนเข้าซื้อหุ้น เนื่องจากจากมีความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับ Brexit เมื่อสภาล่างของอังกฤษลงมติด้วยคะแนนเสียง 358-234 ให้ความเห็นชอบในหลักการกับร่างกฎหมาย Brexit ของนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ
ร่างกฎหมายดังกล่าวระบุว่า อังกฤษจะแยกตัวจาก EU ในวันที่ 31 ม.ค. 2563 และจะสรุปข้อตกลงการค้ากับ EU ภายในสิ้นปี 2563
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ยืนยันว่า สหรัฐและจีนจะลงนามข้อตกลงการค้าเฟสแรกในเดือนม.ค.
หุ้นบวกนำตลาดในวันนี้ได้แก่ หุ้นลอรีอัลและหุ้นวินซีของฝรั่งเศส บวก 2.24% และ 2.05% ตามลำดับ, หุ้นลุฟต์ฮันซาและหุ้นโคเวสโตของเยอรมนี เพิ่มขึ้น 0.51% และ 0.36% ตามลำดับ และหุ้นคาร์นิวาลและหุ้นสก็อตทิส มอร์ทเกจ อินเวสเมนต์ ทรัสต์ของอังกฤษ พุ่งขึ้น 6.82% และ 2.51% ตามลำดับ