ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 ธ.ค.) โดยหุ้นกลุ่มส่งออกปรับตัวขึ้นหลังเงินปอนด์อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ตลาดขานรับสภาสามัญชนหรือสภาล่างของอังกฤษลงมติให้ความเห็นชอบในหลักการกับร่างกฎหมายว่าด้วยการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ในวันที่ 31 ม.ค. 2563 ซึ่งได้ช่วยขจัดความไม่แน่นอนที่ส่งผลกระทบต่อตลาดมากว่า 3 ปี นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนด้วย
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,582.48 จุด เพิ่มขึ้น 8.66 จุด หรือ +0.11%
ตลาดปรับตัวขึ้นหลังสภาสามัญชนหรือสภาล่างของอังกฤษลงมติด้วยคะแนนเสียง 358-234 ให้ความเห็นชอบในหลักการกับร่างกฎหมาย Brexit ของนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ
หุ้นกลุ่มส่งออกยังคงปรับตัวขึ้น โดยได้แรงหนุนจากเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะปั่นป่วนจาก Brexit ในช่วงสิ้นปี 2563
เงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์จะทำให้บริษัทที่ทำธุรกิจระหว่างประเทศมีรายได้เพิ่มขึ้นเมื่อแปลงเป็นเงินปอนด์
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ยืนยันว่า สหรัฐและจีนจะลงนามข้อตกลงการค้าเฟสแรกในเดือนม.ค. 2563
หุ้นบีพี บวก 0.26%, หุ้นดิอาจีโอ เพิ่มขึ้น 1.08% และหุ้นเร็กคิตต์ เบนไคเซอร์ พุ่งขึ้น 3.53%
ส่วนหุ้นคาร์นิวาลที่จดทะเบียนในอังกฤษ พุ่งขึ้น 6.82% หลังคาดการณ์ผลกำไรปี 2563 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้