ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์ปิดลบเมื่อคืนนี้ (24 ธ.ค.) ขณะที่วอลุ่มการซื้อขายเบาบางเนื่องจากตลาดเปิดทำการเพียงครึ่งวัน ก่อนที่จะปิดทำการซื้อขายในวันพุธที่ 25 ธ.ค.เนื่องในวันคริสต์มาส นอกจากนี้ นักลงทุนบางส่วนได้ส่งคำสั่งขายทำกำไรหลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากข่าวความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 28,515.45 จุด ลดลง 36.08 จุด หรือ -0.13% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,223.38 จุด ลดลง 0.63 จุด หรือ -0.02% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,952.88 จุด เพิ่มขึ้น 7.24 จุด หรือ +0.08%
นักวิเคราะห์จากพรูเดนเชียล ไฟแนนเชียลในรัฐนิวยอร์ก กล่าวว่า บรรยากาศการซื้อขายในตลาดเป็นไปอย่างเงียบเหงาในวันคริสต์มาสอีฟ ขณะที่วอลุ่มในตลาดเบาบางมาก เนื่องจากตลาดเปิดทำการซื้อขายเพียงครึ่งวัน นอกจากนี้ นักลงทุนยังชะลอการซื้อขาย และมีบางส่วนที่เทขายทำกำไร หลังจากตลาดพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้มีเพียง 2.8 พันล้านหุ้น เทียบกับระดับเฉลี่ยในช่วง 20 วันทำการก่อนหน้านี้ซึ่งมีปริมาณการซื้อขายต่อวันเกือบ 7 พันล้านหุ้น
หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมปรับตัวลง นำโดยหุ้นโบอิ้ง ร่วงลง 1.39% หุ้น 3M ปรับตัวลง 0.9% หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ ลดลง 0.7% หุ้นยูไนเต็ด เทคโนโลยีส์ ลบ 0.13% หุ้นเอเมอร์สัน อิเล็กทริก ลดลง 0.9%
หุ้นอูเบอร์ เทคโนโลยีส์ ขยับขึ้น 0.4% หลังจากนายทราวิส คาลานิค ผู้ก่อตั้งร่วมของอูเบอร์ ประกาศลาออกจากคณะกรรมการบริหารของอูเบอร์ โดยจะมีผลในวันที่ 31 ธ.ค.นี้
นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐและจีนอย่างใกล้ชิด โดยล่าสุด ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวเมื่อวานนี้ว่า สหรัฐและจีนจะจัดพิธีลงนามข้อตกลงการค้าเฟสแรกในไม่ช้านี้ เนื่องจากทั้งสองฝ่ายต้องการให้ข้อตกลงสำเร็จเรียบร้อย