ดัชนีดาวโจนส์เปิดแดนบวกในวันนี้ โดยยังคงดีดตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขานรับความคืบหน้าในการทำข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
ณ เวลา 21.57 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 28,654.34 จุด บวก 32.95 จุด หรือ 0.12%
กระทรวงการต่างประเทศของจีนแถลงว่า จีนอยู่ระหว่างการติดต่อประสานงานกับสหรัฐเกี่ยวกับการจัดพิธีลงนามข้อตกลงการค้าระหว่างผู้นำทั้งสองฝ่าย ซึ่งถือเป็นการยืนยันถ้อยแถลงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่กล่าวก่อนหน้านี้ว่า พิธีลงนามข้อตกลงการค้าเฟสแรกระหว่างตนกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
Stock Trader’s Almanac เปิดเผยว่า จากการรวบรวมข้อมูลในอดีต พบว่า ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทมักพุ่งขึ้นในการซื้อขายช่วงเทศกาลคริสต์มาส
ทั้งนี้ ซานต้า แรลลี่ของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะเกิดขึ้นเป็นเวลา 7 วันทำการ โดยมีขึ้นในช่วง 5 วันทำการสุดท้ายของปีปัจจุบัน รวมทั้ง 2 วันแรกของปีใหม่
จากการรวบรวมสถิติการปรับตัวของตลาดหุ้นนิวยอร์กช่วง 7 วันของซานต้า แรลลี่ พบว่า ดัชนีดาวโจนส์สามารถปิดตลาดในแดนบวกถึง 78% นับตั้งแต่ปี 2471 หรือในช่วงเวลากว่า 90 ปีที่ผ่านมา
บริษัท Bespoke Investment Group เปิดเผยข้อมูลระบุว่า ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปรับตัวขึ้นในสมัยของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์มากกว่าประธานาธิบดีส่วนใหญ่ของสหรัฐ
ทั้งนี้ ดัชนี S&P 500 ให้ผลตอบแทนมากกว่า 50% นับตั้งแต่ปธน.ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งในเดือนพ.ย.2559 โดยมากกว่าถึง 2 เท่า เมื่อเทียบกับผลตอบแทนของดัชนี S&P 500 ที่ทำไว้ที่ 23% สำหรับประธานาธิบดีสหรัฐคนอื่นๆ ขณะอยู่ในตำแหน่งเป็นเวลา 3 ปี
นอกจากนี้ ดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้นมากกว่า 28% ในปีนี้ สูงกว่าระดับ 12.8% สำหรับประธานาธิบดีสหรัฐคนอื่นๆ ขณะอยู่ในตำแหน่งในปีที่ 3
แม้ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทประสบภาวะผันผวนจากการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในปีนี้ แต่ดัชนี S&P 500 ก็สามารถพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เหนือระดับ 3,200 จุดในสัปดาห์ที่แล้ว