ดัชนีดาวโจนส์ และ S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นทำนิวไฮเมื่อคืนนี้ (27 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของจีน และความคืบหน้าในเชิงบวกเกี่ยวกับการทำข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปรับตัวลงหลังบวกขึ้นติดต่อกัน 11 วัน ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบางในช่วงก่อนสิ้นปี และคาดว่าการซื้อขายจะยังคงซบเซาไปจนถึงวันพุธหน้า ซึ่งตลาดจะปิดทำการเนื่องในวันปีใหม่
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 28,645.26 จุด เพิ่มขึ้น 23.87 จุด หรือ +0.08% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,240.02 จุด เพิ่มขึ้น 0.11 จุด หรือ +0.00% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,006.62 จุด ลดลง 15.77 จุด หรือ -0.17%
ตลอดทั้งสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ บวก 0.67%, ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 0.58% และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 0.91%
ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นขานรับสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันศุกร์ว่า กำไรของบริษัทอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของจีน เพิ่มขึ้น 5.4% ในเดือนพ.ย. โดยฟื้นตัวขึ้นอย่างมากหลังจากร่วงลง 9.9% ในเดือนต.ค.
นอกจากนี้ นักลงทุนยังได้แรงหนุนจากความเชื่อมั่นที่ว่า สหรัฐ-จีนจะลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรกเร็วๆนี้ หลังจากกระทรวงการต่างประเทศของจีนแถลงในสัปดาห์นี้ว่า จีนอยู่ระหว่างการติดต่อประสานงานกับสหรัฐเกี่ยวกับการจัดพิธีลงนามข้อตกลงการค้าระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน
หุ้น 6 ใน 11 กลุ่มของดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้น โดยกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคปิดบวกนำตลาด ขณะที่กลุ่มพลังงานปิดลบมากที่สุด
หุ้นอเมซอนปิดบวก 0.06% หลังพุ่งขึ้นมากกว่า 4% ในวันพฤหัสบดี โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการที่มาสเตอร์การ์ด บริษัทผู้ให้บริการทางการเงินระดับโลก เปิดเผยว่า ยอดขายสินค้าตามช่องทางอีคอมเมิร์ซในสหรัฐช่วงเทศกาลท้ายปี ซึ่งนับตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. จนถึงวันคริสต์มาสอีฟ ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 18.8% จากปีก่อนหน้า แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีนี้
หุ้นบวกในตลาดนำโดยหุ้นไมโครซอฟท์ เพิ่มขึ้น 0.18%, หุ้นเอทีแอนด์ที บวก 0.20%, หุ้นอินเทล ปรับตัวขึ้น 0.43% และหุ้นคอมคาสต์ บวก 0.29%
ส่วนหุ้นลบในตลาดนำโดยหุ้นแอปเปิล ลดลง 0.04%, หุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก ลบ 0.45% และหุ้นฟอร์ด มอเตอร์ ปรับตัวลง 0.95%
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 5.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าอาจลดลง 3 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์ และน้ำมันดีเซล ลดลง 200,000 บาร์เรล