ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวลง เหตุวิตกสถานการณ์ตึงเครียดสหรัฐ-อิหร่าน

ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าวันนี้ปรับตัวลง เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและอิหร่าน ขณะที่ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นจากสถานการณ์ดังกล่าว

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 28,261.56 จุด ลดลง 189.94 จุด, -0.67% ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 23,173.35 จุด ลดลง 483.27 จุด, -2.04% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,596.19 จุด ลดลง 15.19 จุด, -0.94%

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า สหรัฐพร้อมตอบโต้อิหร่าน "อย่างรุนแรง" หากอิหร่านคิดแก้แค้นสหรัฐที่ปลิดชีพนายพลกัสซิม โซเลมานี ผู้บัญชาการกองกำลัง Quds Force ของอิหร่าน

นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวอีกด้วยว่า สหรัฐต้องการที่จะโจมตีแหล่งวัฒนธรรมของอิหร่าน เนื่องจากอิหร่านได้คร่าชีวิตชาวสหรัฐไปหลายราย พร้อมกับกล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐจะหารือเกี่ยวกับการปล่อยข่าวกรองที่เกี่ยวข้องกับการโจมตีนายโซเลมานี

ราคาน้ำมัน WTI พุ่งขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐออกแถลงการณ์เตือนว่า อิหร่านอาจใช้ขีปนาวุธหรือโดรนเพื่อโจมตีพื้นที่ใกล้ฐานทัพทหารและแหล่งน้ำมันในซาอุดีอาระเบีย โดยถ้อยแถลงดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนกังวลว่า การผลิตและการลำเลียงน้ำมันในซาอุดีอาระเบียซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลก จะได้รับผลกระทบ

ณ เวลา 07.56 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.พ. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 84 เซนต์ หรือ 1.33% แตะที่ระดับ 63.89 ดอลลาร์/บาร์เรล

ข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้มีการเปิดเผยแล้วในวันนี้ ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของจีน ซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับไฉซิน อยู่ที่ระดับ 52.5 ในเดือนธ.ค. ซึ่งชะลอลงจากระดับ 53.5 ในเดือนพ.ย. เนื่องจากภาคบริการของจีนมีความเชื่อมั่นลดลง

อย่างไรก็ดี ดัชนี PMI ที่เคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่า ภาคบริการของจีนยังคงมีการขยายตัว ขณะที่ดัชนีที่เคลื่อนไหวต่ำกว่า 50 บ่งชี้ถึงภาวะหดตัวในภาคบริการ