ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลง 100 จุดในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ในตะวันออกกลาง
ณ เวลา 21.43 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 28,602.98 จุด ลบ 100.40 จุด หรือ 0.35%
นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ กล่าวว่า สภาผู้แทนราษฎรจะลงคะแนนเสียงในสัปดาห์นี้ต่อญัตติจำกัดอำนาจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในการใช้ปฏิบัติการทางทหารต่ออิหร่าน
ทั้งนี้ สมาชิกพรรคเดโมแครตต่างแสดงความไม่พอใจต่อการที่ปธน.ทรัมป์ไม่ได้แจ้งต่อรัฐสภา และไม่ได้ขออนุมัติก่อนที่จะใช้ปฎิบัติการทางทหารโจมตีท่าอากาศยานนานาชาติกรุงแบกแดดของอิรัก จนทำให้นายพลกัสซิม โซเลมานี ผู้บัญชาการกองกำลัง Quds Force ของอิหร่าน และนายอาบู มาห์ดี อัล-มูฮันดิส รองผู้นำกองกำลังฮาชด์ชาบี (Hashd Shaabi) ของอิรัก เสียชีวิต
นางเพโลซีกล่าวว่า มาตรการยั่วยุของรัฐบาลปธน.ทรัมป์ได้ทำให้เจ้าหน้าที่สหรัฐ, นักการทูต และชาวอเมริกันตกอยู่ในอันตราย ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นกับอิหร่าน
"ในฐานะที่เป็นสมาชิกสภาคองเกรส ความรับผิดชอบอย่างแรกของเราคือการทำให้ชาวอเมริกันมีความปลอดภัย และเนื่องจากสาเหตุนี้ เราจึงมีความกังวลต่อการดำเนินการของรัฐบาลโดยไม่มีการปรึกษาหารือกับสภาคองเกรส และไม่มีความเคารพต่ออำนาจในการประกาศสงครามของสภาคองเกรสตามที่ได้ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ" นางเพโลซีกล่าว
ถึงแม้มีการคาดการณ์กันว่าญัตติจำกัดอำนาจของปธน.ทรัมป์ในการใช้ปฏิบัติการทางทหารต่ออิหร่านจะผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ แต่ก็จะเผชิญความไม่แน่นอนในวุฒิสภา ซึ่งพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก
ทางด้านเอสแอนด์พี โกลบอล เรทติ้ง สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ แถลงว่า การที่สหรัฐสังหารนายทหารระดับสูงของอิหร่านจะไม่ทำให้เกิดสงครามเต็มรูปแบบระหว่างสหรัฐและอิหร่าน
"เรายังคงเชื่อว่าความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นจะยังคงมีผลกระทบที่จำกัด โดยจะส่งผลทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และทางการเมือง ซึ่งจะสร้างภาวะไร้เสถียรภาพในภูมิภาค และกระทบต่อความเชื่อมั่นและการลงทุน" แถลงการณ์ระบุ
ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 โดยดิ่งลง 8.2% สู่ระดับ 4.31 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2559 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.38 หมื่นล้านดอลลาร์ จากระดับ 4.69 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนต.ค.
นอกจากนี้ ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐที่ดิ่งลง 8.2% ในเดือนพ.ย. ถือเป็นการลดลงในอัตราสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.ปีที่แล้ว
ตัวเลขขาดดุลการค้ากับจีนลดลง 15.7% ในเดือนพ.ย. สู่ระดับ 2.64 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่สหรัฐส่งออกไปยังจีนเพิ่มขึ้น 1.4 พันล้านดอลลาร์ และนำเข้าลดลง 800 ล้านดอลลาร์