ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและอิหร่าน หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐระบุว่า เขาจะไม่ใช้ปฏิบัติการทางทหารกับอิหร่าน ขณะที่ทางอิหร่านเองก็ส่งสัญญาณยุติการตอบโต้สหรัฐ นอกจากนี้ตลาดยังได้แรงหนุนจากรายงานข่าวที่ว่า สหรัฐและจีนจะลงนามข้อตกลงการค้าเฟสแรกในสัปดาห์หน้า
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,598.12 จุด เพิ่มขึ้น 23.19 จุด หรือ +0.31%
ตลาดหุ้นอังกฤษปรับตัวขึ้น เนื่องจากนักลงทุนกลับเข้าซื้อหุ้นหลังคลายวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า สหรัฐจะตอบโต้อิหร่านโดยใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ และไม่ได้ระบุถึงการใช้ปฏิบัติการทางทหาร หลังจากที่อิหร่านใช้ขีปนาวุธโจมตีฐานทัพสหรัฐในอิรักเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ขณะที่ทางอิหร่านเองก็มีท่าทีที่อ่อนลงหลังการโจมตีฐานทัพสหรัฐ
แหล่งข่าวจากรัฐบาลสหรัฐและยุโรประบุว่า อิหร่านจงใจยิงขีปนาวุธพลาดเป้าในการโจมตีฐานทัพสหรัฐในอิรัก เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียชีวิตของทหารสหรัฐ และหลีกเลี่ยงไม่ให้วิกฤตการณ์ลุกลามจนไม่สามารถควบคุมได้
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่กระทรวงพาณิชย์จีนออกแถลงการณ์ว่า นายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน จะนำคณะผู้แทนของจีนเดินทางไปยังกรุงวอชิงตันของสหรัฐในระหว่างวันที่ 13-15 ม.ค.นี้ เพื่อร่วมลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรกกับสหรัฐ
หุ้นโวดาโฟนและหุ้นโรลส์-รอยซ์ บวก 3.02% และ 2.97% ตามลำดับ
หุ้นเทสโก้ ปรับตัวขึ้น 0.92% หลังเปิดเผยยอดขายช่วงคริสต์มาสที่ดีกว่าคู่แข่ง ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่า ยอดขายดังกล่าวแข็งแกร่งมาก เมื่อพิจารณาจากภาวะตลาดที่ซบเซา และแรงกดดันจากบรรดาร้านค้าที่ขายสินค้าลดราคา