ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวขึ้นในวันนี้ ก่อนการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในคืนนี้
ณ เวลา 19.29 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 57 จุด หรือ 0.20% สู่ระดับ 28,986 จุด
กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในคืนนี้เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งผลการสำรวจพบว่า นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขการจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 160,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. ส่วนอัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 3.5% และการขยายตัวของค่าจ้างจะทรงตัวที่ระดับ 3.1%
อย่างไรก็ดี นักเศรษฐศาสตร์บางส่วนระบุว่า รายงานตัวเลขการจ้างงานและค่าจ้างของสหรัฐจะออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ ขณะที่นายจ้างพร้อมที่จะเพิ่มค่าจ้างให้แก่พนักงาน ท่ามกลางตลาดแรงงานที่ตึงตัว และเศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัวที่แข็งแกร่งกว่าคาด
ขณะเดียวกัน การที่ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐที่พุ่งขึ้นมากกว่าคาดในเดือนธ.ค. ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะหนุนให้ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสูงกว่าคาด
ทั้งนี้ ADP และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐพุ่งขึ้น 202,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 150,000 ตำแหน่ง
นอกจากนี้ ADP ได้ปรับเพิ่มตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนในเดือนพ.ย.สู่ระดับ 124,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่ระดับ 67,000 ตำแหน่ง
การจ้างงานในภาคบริการเพิ่มขึ้น 173,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. ส่วนการจ้างงานในภาคการผลิตเพิ่มขึ้น 29,000 ตำแหน่ง
บริษัททาโก้ เบลล์ แถลงวานนี้ว่า ทางบริษัทมีแผนที่จะจ่ายเงินเดือนแก่ผู้บริหารระดับผู้จัดการในอัตรา 100,000 ดอลลาร์/ปี โดยเริ่มต้นในปีนี้ ซึ่งอัตราเงินเดือนดังกล่าวสูงกว่าปัจจุบันซึ่งอยู่ในช่วง 50,000-80,000 ดอลลาร์/ปี
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานก่อนหน้านี้ว่า ค่าจ้างสำหรับแรงงานที่ไม่ได้อยู่ในระดับบริหารมีการเพิ่มขึ้นมากกว่าระดับผู้จัดการ โดยมีการขยายตัว 3.7% ในเดือนพ.ย. ขณะที่ค่าจ้างโดยรวมเพิ่มขึ้นเพียง 3.1%
ขณะเดียวกัน ตลาดได้แรงหนุนจากการที่สหรัฐและจีนจะลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรกในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ นายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน จะนำคณะผู้แทนของจีนเดินทางไปยังกรุงวอชิงตันของสหรัฐในระหว่างวันที่ 13-15 ม.ค. เพื่อร่วมลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรกกับสหรัฐ ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า การลงนามข้อตกลงการค้าเฟสแรกจะมีขึ้นในวันที่ 15 ม.ค.
อย่างไรก็ดี ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า เขาคาดว่าสหรัฐอาจจะยังไม่บรรลุข้อตกลงการค้าเฟสสองกับจีน จนกว่าหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพ.ย.ปีนี้
ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า สหรัฐจะทำการเจรจาการค้าเฟสสองกับจีนทันทีที่มีการบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรก แต่เขากล่าวว่า อาจจะต้องใช้เวลาสำหรับการบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสสอง
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ระบุว่า เขาอาจมีอำนาจต่อรองมากขึ้น หลังผ่านพ้นการเลือกตั้งประธานาธิบดี
"ผมคิดว่าผมอาจจะต้องการรอให้จบการเลือกตั้งก่อน เพราะผมคิดว่าเราจะได้ข้อตกลงที่ดีกว่าเดิม" ปธน.ทรัมป์กล่าว