ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลดช่วงบวกในวันนี้ หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่ซบเซา
ณ เวลา 20.54 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 11 จุด หรือ 0.04% สู่ระดับ 28,940 จุด
กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 145,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 160,000 ตำแหน่ง
ส่วนอัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 3.5% ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 50 ปี
ขณะเดียวกัน ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนธ.ค. จาก 0.3% ในเดือนพ.ย.
เมื่อเทียบรายปี ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงานเพิ่มขึ้น 2.9% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราต่ำกว่า 3.0% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ค.2561 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.1%
ทั้งนี้ ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงนับเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ
กระทรวงแรงงานสหรัฐยังได้ทบทวนปรับลดตัวเลขการจ้างงานในเดือนต.ค. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 152,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 156,000 ตำแหน่ง และทบทวนปรับลดตัวเลขการจ้างงานในเดือนพ.ย. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 256,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 266,000 ตำแหน่ง
กระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่าในเดือนธ.ค. ภาคเอกชนมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 139,000 ตำแหน่ง ขณะที่ภาครัฐจ้างงานเพิ่มขึ้น 6,000 ตำแหน่ง
ส่วนตัวเลขอัตราการเข้าสู่ตลาดแรงงานของสหรัฐ ซึ่งแสดงสัดส่วนของกำลังแรงงานต่อจำนวนประชากรทั้งหมด ทรงตัวที่ระดับ 63.2%
เมื่อพิจารณาตลอดทั้งปี 2562 พบว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 2.1 ล้านตำแหน่ง ลดลงอย่างมากจากระดับ 2.7 ล้านตำแหน่งในปี 2561
นอกจากนี้ การจ้างงานนอกภาคเกษตรในปีที่แล้วคิดเป็นตัวเลขเฉลี่ย 176,000 ตำแหน่งต่อเดือน ซึ่งเป็นตัวเลขต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2554
อย่างไรก็ดี ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่สหรัฐและจีนจะลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรกในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ นายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน จะนำคณะผู้แทนของจีนเดินทางไปยังกรุงวอชิงตันของสหรัฐในระหว่างวันที่ 13-15 ม.ค. เพื่อร่วมลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรกกับสหรัฐ ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า การลงนามข้อตกลงการค้าเฟสแรกจะมีขึ้นในวันที่ 15 ม.ค.
ทางด้านปธน.ทรัมป์กล่าวว่า เขาคาดว่าสหรัฐอาจจะยังไม่บรรลุข้อตกลงการค้าเฟสสองกับจีน จนกว่าหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพ.ย.ปีนี้
ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า สหรัฐจะทำการเจรจาการค้าเฟสสองกับจีนทันทีที่มีการบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรก แต่เขากล่าวว่า อาจจะต้องใช้เวลาสำหรับการบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสสอง
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ระบุว่า เขาอาจมีอำนาจต่อรองมากขึ้น หลังผ่านพ้นการเลือกตั้งประธานาธิบดี
"ผมคิดว่าผมอาจจะต้องการรอให้จบการเลือกตั้งก่อน เพราะผมคิดว่าเราจะได้ข้อตกลงที่ดีกว่าเดิม" ปธน.ทรัมป์กล่าว