ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวขึ้นในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะดีดตัวขึ้นในคืนนี้ ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของมอร์แกน สแตนลีย์
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรกระหว่างสหรัฐและจีนเมื่อวานนี้
ณ เวลา 20.14 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 76 จุด หรือ 0.26% สู่ระดับ 29,105 จุด
มอร์แกน สแตนลีย์เปิดเผยว่า ทางธนาคารมีกำไรและรายได้ในไตรมาส 4 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
ทั้งนี้ มอร์แกน สแตยลีย์ระบุว่า ธนาคารมีกำไรที่ระดับ 1.30 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.99 ดอลลาร์/หุ้น
นอกจากนี้ ธนาคารมีรายได้ 1.086 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 9.72 พันล้านดอลลาร์
ขณะนี้ บริษัทราว 7% ในดัชนี S&P 500 ได้เปิดเผยผลประกอบการในไตรมาส 4 แล้ว ซึ่ง 76.5% ในจำนวนดังกล่าวมีกำไรสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
ข้อตกลงการค้าเฟสแรกที่มีการลงนามเมื่อวานนี้ ระบุว่า สหรัฐเห็นพ้องที่จะปรับลดภาษีลงครึ่งหนึ่งจากอัตรา 15% ที่เรียกเก็บจากสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 1.2 แสนล้านดอลลาร์ และชะลอการเก็บภาษีเพิ่มเติมเพื่อแลกกับการที่จีนให้คำมั่นสัญญาในการปฏิรูปโครงสร้าง รวมทั้งซื้อสินค้าและบริการจากสหรัฐเพิ่มขึ้นอีก 2 แสนล้านดอลลาร์ในช่วงเวลา 2 ปีข้างหน้า
หากจีนปฏิบัติตามข้อตกลงการค้าดังกล่าว จะส่งผลให้การส่งออกของสหรัฐไปยังจีนพุ่งสู่ระดับ 2.63 แสนล้านดอลลาร์ในปีนี้ และ 3.09 แสนล้านดอลลาร์ในปีหน้า ซึ่งถือเป็นสถิติสูงเป็นประวัติการณ์ของสหรัฐ
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในวันนี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดค้าปลีกเดือนธ.ค., ราคานำเข้าและราคาส่งออกเดือนธ.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนพ.ย., ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนม.ค.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB)