ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 ม.ค.) แตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 5 เดือน โดยได้แรงหนุนจากข้อมูลการขยายตัวของเศรษฐกิจจีน และเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลง หลังจากการเปิดเผยข้อมูลยอดค้าปลีกที่อ่อนแอของอังกฤษได้เพิ่มแนวโน้มที่ธนาคารกลางอังกฤษจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเร็วๆ นี้นั้น ได้ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มส่งออกปรับตัวขึ้นด้วย
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,674.56 จุด เพิ่มขึ้น 64.75 จุด หรือ +0.85%
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวขึ้นขานรับสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขยายตัว 6.1% ในปีที่แล้ว ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมมีการขยายตัวมากกว่าคาด
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่พุ่งขึ้นขานรับข้อมูลการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของจีน และความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นหลังสหรัฐ-จีนลงนามข้อตกลงการค้าเฟสแรกแล้วเมื่อวันพุธที่ผ่านมา
นอกจากนี้ เงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงช่วยหนุนหุ้นกลุ่มส่งออกด้วย โดยหุ้นส่งออกที่มีรายได้เป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้น อาทิ หุ้นแอสตราเซเนกา, หุ้นแกล็คโซสมิธไคลน์ และหุ้นดิอาจิโอ ปรับตัวขึ้น 2.22%, 2.10% และ 0.94% ตามลำดับ
หุ้นเอ็นเอ็มซี เฮลธ์, หุ้นอีฟแรซ และหุ้นแอชทีด กรุ๊ป พุ่งขึ้น 8.05%, 6.38% และ 5.15% ตามลำดับ