ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (20 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขายหุ้นออกมาเพื่อทำกำไร หลังจากตลาดปรับตัวขึ้นใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ขณะที่นักลงทุนเริ่มกลับมากังวลอีกครั้งเกี่ยวกับกระบวนการแยกตัวแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (hard Brexit) นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มธนาคารยังถูกกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางอังกฤษจะผ่อนคลายนโยบายการเงินลงอีกในเดือนนี้
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,651.44 จุด ลดลง 23.12 จุด หรือ -0.30%
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลงจากแรงขายทำกำไร หลังตลาดพุ่งขึ้นในช่วงที่ผ่านมา และนักลงทุนกลับมากังวลกับเรื่อง hard Brexit อีกครั้ง หลังจากที่นายซาจิด จาวิด รมว.คลังอังกฤษแสดงความเห็นว่า อังกฤษจะไม่ให้คำมั่นว่า จะปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของสหภาพยุโรป (EU) ในการเจรจาการค้าระหว่างกันหลัง Brexit
ตลาดยังถูกกดดันจากการที่หุ้นเชลล์และหุ้นบีพีปรับตัวลง 0.25% และ 0.58% ตามลำดับ แม้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นก็ตาม
นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มธนาคาร อาทิ หุ้นลอยด์สและหุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ ปรับตัวลง 0.94% และ 0.89% ตามลำดับ โดยถูกกดดันจากการคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้นว่า ธนาคารกลางอังกฤษจะผ่อนคลายนโยบายการเงินในเดือนนี้