ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (23 ม.ค.) โดยหุ้นกลุ่มธุรกิจสุขภาพร่วงลงหลังจากมีรายงานว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงตามทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ อย่างไรก็ดี ดัชนี S&P500 ยังคงปิดในแดนบวก ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดทำนิวไฮ โดยได้แรงหนุนจากราคาหุ้นเน็ตฟลิกซ์ที่พุ่งขึ้นกว่า 7%
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 29,160.09 จุด ลดลง 26.18 จุด หรือ -0.09% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,325.54 จุด เพิ่มขึ้น 3.79 จุด หรือ +0.11% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,402.48 จุด เพิ่มขึ้น 18.71 จุด หรือ +0.20%
นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่กำลังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วในขณะนี้ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น หลังจากผ่านพ้นเทศกาลตรุษจีน ซึ่งชาวจีนจำนวนหลายร้อยล้านคนจะเดินทางท่องเที่ยวทั้งภายในจีน และในต่างประเทศ
อย่างไรก็ดี นักลงทุนคลายความกังวลในระดับหนึ่ง หลังจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ออกแถลงการณ์ว่า ไวรัสโคโรนาพันธุ์ใหม่ยังไม่เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขโลกในขณะนี้
หุ้นกลุ่มธุรกิจสุขภาพปรับตัวลงท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา โดยหุ้นยูไนเต็ดเฮลธ์ กรุ๊ป ลดลง 0.4% หุ้นฮูมานา อิงค์ ลดลง 0.6% หุ้นแอมเจน ลดลง 0.7%
หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลงหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ร่วงลงต่ำกว่าระดับ 1.75% เมื่อคืนนี้ โดยหุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ลดลง 0.59% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ปรับตัวลง 0.6% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส ลบ 0.1% หุ้นธนาคารเวลส์ ฟาร์โก ลดลง 0.7% ขณะที่หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ลดลง 0.7% เช่นกัน
หุ้นพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (P&G) ปรับตัวลง 0.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ในเดือนต.ค.-ธ.ค.2562 ซึ่งเป็นไตรมาส 2 ตามปีงบการเงินบริษัท ที่ระดับ 1.824 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 1.837 หมื่นล้านดอลลาร์
หุ้นคอมแคสต์ ซึ่งเป็นบริษัทสื่อยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ ร่วงลง 3.7% แม้บริษัทเปิดเผยกำไรในไตรมาส 4/2562 ที่ระดับ 79 เซนต์/หุ้น สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 76 เซนต์/หุ้น
หุ้นเน็ตฟลิกซ์ พุ่งขึ้น 7.2% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรในไตรมาส 4/2562 ที่ระดับ 1.30 ดอลลาร์/หุ้น จากระดับ 0.30 ดอลลาร์/หุ้นในช่วงเดียวกันของปี 2561 ขณะที่จำนวนผู้ใช้บริการในต่างประเทศเพิ่มขึ้น 8.76 ล้านราย สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 7.63 ล้านราย
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 6,000 ราย สู่ระดับ 211,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 215,000 ราย
ทางด้าน Conference Board เปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ Leading Economic Index (LEI) ปรับตัวลง 0.3% สู่ระดับ 111.2 ในเดือนธ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ย.
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนม.ค.จากมาร์กิต และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนม.ค.จากมาร์กิต