ดาวโจนส์ทรุดกว่า 400 จุด กังวลไวรัสโคโรนากระทบเศรษฐกิจโลก

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday January 27, 2020 22:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ทรุดตัวลงกว่า 400 จุดในวันนี้ ท่ามกลางความกังวลที่ว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก

ณ เวลา 21.47 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 28,567.83 จุด ลบ 421.90 จุด หรือ 1.46%

หุ้นที่เกี่ยวขอ้งกับการเดินทาง เช่น สายการบิน โรงแรม และสถานกาสิโน ต่างก็ดิ่งลงอย่างหนักในวันนี้

ดัชนีความผันผวน CBOE หรือ CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาด ดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 18 จุด จากระดับ 14.50 ก่อนหน้านี้

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ดิ่งลงกว่า 3% ใกล้หลุดระดับ 52 ดอลลาร์ในวันนี้ โดยร่วงลงติดต่อกันเป็นวันทำการที่ 5 จากความวิตกที่ว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน

ทั้งนี้ การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนจะส่งผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมัน เนื่องจากจีนเป็นประเทศที่นำเข้าน้ำมันมากที่สุดในโลก โดยนำเข้าน้ำมันจำนวน 10.12 ล้านบาร์เรล/วันในปีที่แล้ว นอกจากนี้ จีนยังเป็นประเทศที่บริโภคน้ำมันมากเป็นอันดับ 2 ของโลก

คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) ออกแถลงการณ์ล่าสุดในวันนี้ ระบุว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคปอดอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เพิ่มขึ้นเป็น 81 ราย

จำนวนผู้เสียชีวิตในมณฑลหูเป่ยเพิ่มขึ้นเป็น 76 ราย จากเดิม 56 ราย ขณะที่ 5 รายเสียชีวิตในมณฑลอื่นๆของจีน

ส่วนจำนวนผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในจีนเพิ่มขึ้นเป็น 2,862 ราย โดยครึ่งหนึ่งอยู่ในมณฑลหูเป่ย และผู้ป่วยที่มีอาการวิกฤตมีจำนวน 461 ราย ขณะที่อิมพีเรียลคอลเลจลอนดอน ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงของอังกฤษ ออกรายงานระบุว่า ทางมหาวิทยาลัยคาดการณ์ว่า จีนมีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่สูงถึง 4,000 ราย โดยทั้งหมดอยู่ในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ยของจีน

ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่อาจติดเชื้อไวรัสดังกล่าวในจีนเพิ่มขึ้น 3,806 ราย สู่ระดับ 5,794 ราย

นอกจากนี้ ยังมีการตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จำนวนมากกว่า 50 รายในประเทศและดินแดนต่างๆทั่วโลกจำนวน 13 แห่งนอกจากประเทศจีน

นักลงทุนยังคงจับตาการรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน รวมทั้งการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 28-29 ม.ค. ขณะที่มีการคาดการณ์ว่าเฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ หลังจากที่เฟดส่งสัญญาณก่อนหน้านี้ในการคงอัตราดอกเบี้ยตลอดทั้งปีนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ