ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (27 ม.ค.) โดยร่วงลงมากกว่า 2% ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบทางธุรกิจจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวสรัสโคโรนาจากจีน หลังจากที่ทางการจีนออกมาตรการสั่งห้ามชาวจีนเดินทางออกนอกประเทศ และขยายเวลาวันหยุดเทศกาลตรุษจีน
ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 2.26% ปิดที่ 414.07 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,863.02 จุด ลดลง 161.23 จุด หรือ -2.68%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,204.77 จุด ลดลง 371.91 จุด หรือ -2.74% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,412.05 จุด ลดลง 173.93 จุด หรือ -2.29%
ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลง โดยหุ้นมากกว่า 97% ปรับตัวในแดนลบ ซึ่งทำให้มูลค่าตลาดลดลงราว 1.80 แสนล้านยูโร โดยหุ้นที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาได้แก่หุ้นกลุ่มสินค้าหรูหรา, กลุ่มสายการบิน และกลุ่มโรงแรม ซึ่งมีรายได้ส่วนใหญ่มาจากนักท่องเที่ยวชาวจีน
จำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาในจีนเพิ่มขึ้นเป็น 81 ราย และมีการยืนยันพบผู้ติดเชื้อไวรัสดังกล่าวเพิ่มขึ้นในอีกหลายประเทศ
รัฐบาลจีนได้ออกมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ด้วยการขยายเวลาวันหยุดตรุษจีนออกไปจนถึงวันที่ 2 ก.พ. จากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดในวันที่ 30 ม.ค. และมีคำสั่งห้ามไม่ให้คณะทัวร์จีนเดินทางออกนอกประเทศ โดยคำสั่งห้ามดังกล่าวครอบคลุมถึงการขายแพ็คเกจเที่ยวบินและโรงแรมสำหรับชาวจีนที่ต้องการเดินทางไปต่างประเทศด้วย
หุ้นกลุ่มสินค้าหรูหราของยุโรปร่วงลงตามกัน เนื่องจากมีรายได้ส่วนใหญ่มาจากลูกค้าชาวจีน โดยหุ้นหลุยส์วิตตอง ร่วง 3.68%, หุ้นคริสเตียนดิออร์ ร่วง 3.69%, หุ้นแอร์เมส ดิ่งลง 4.30% และเคอริ่ง ร่วง 3.61%
หุ้นกลุ่มสายการบินปรับตัวลงด้วย โดยหุ้นลุฟต์ฮันซา ร่วงลง 4.33% และหุ้นอินเตอร์เนชันแนล คอนโซลิเดเต็ด แอร์ไลน์ กรุ๊ป ร่วง 5.48%