ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (27 ม.ค.) โดยร่วงลงหนักที่สุดในรอบเกือบ 4 เดือน เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาจากจีน หลังจากทางการจีนออกมาตรการห้ามชาวจีนเดินทางออกนอกประเทศโดยหวังจะสกัดกั้นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าว
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,412.05 จุด ลดลง 173.93 จุด หรือ -2.29%
ตลาดร่วงลง เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นท่ามกลางความวิตกว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาในจีน จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจต่างๆ
จำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาในจีนเพิ่มขึ้นเป็น 81 ราย และมีการยืนยันพบผู้ติดเชื้อไวรัสดังกล่าวเพิ่มขึ้นในอีกหลายประเทศ
รัฐบาลจีนได้ออกมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ด้วยการขยายเวลาวันหยุดตรุษจีนออกไปจนถึงวันที่ 2 ก.พ. จากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดในวันที่ 30 ม.ค. และมีคำสั่งห้ามไม่ให้คณะทัวร์จีนเดินทางออกนอกประเทศ โดยคำสั่งห้ามดังกล่าวครอบคลุมถึงการขายแพ็คเกจเที่ยวบินและโรงแรมสำหรับชาวจีนที่ต้องการเดินทางไปต่างประเทศด้วย
หุ้นกลุ่มสินค้าหรูหราและกลุ่มสายการบินร่วงลงอย่างรุนแรง เนื่องจากมีรายได้ส่วนใหญ่มาจากลูกค้าชาวจีน
หุ้นอินเตอร์เนชันแนล คอนโซลิเดเต็ด แอร์ไลน์ กรุ๊ป เจ้าของสายการบินบริติช แอร์เวย์ ร่วง 5.48% และ หุ้นเบอเบอร์รี ร่วง 4.6%
นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มการเงินที่ทำธุรกิจในเอเชีย ปรับตัวลงด้วย โดยหุ้นเอชเอสบีซี ร่วง 3.50% , หุ้นพรูเดนเชียล ดิ่งลง 5.04% และหุ้นสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ร่วง 4.53%