ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (29 ม.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารยุโรปบางแห่งเปิดเผยผลประกอบการสดใส และเยอรมนีปรับเพิ่มคาดการณ์แนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้ แต่การซื้อขายยังคงเป็นไปอย่างระมัดระวัง เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จากจีน และจับตาผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐและธนาคารกลางอังกฤษในสัปดาห์นี้
ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.44% ปิดที่ 419.41 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,954.89 จุด เพิ่มขึ้น 29.07 จุด หรือ +0.49%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,345.00 จุด เพิ่มขึ้น 21.31 จุด หรือ +0.16% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,483.57 จุด เพิ่มขึ้น 2.88 จุด หรือ +0.04%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้น โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคารที่ดีดตัวขึ้นขานรับการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของธนาคารซานแทนเดอร์ของสเปน และธนาคารเอสอีบีของสวีเดน
หุ้นซานแทนเดอร์ พุ่ง 4.41% และหุ้นเอสอีบี บวก 1.94%
นอกจากนี้ นักลงทุนยังได้แรงหนุนจากการที่เยอรมนีปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในปีนี้เป็น 1.1% จากการคาดการณ์ครั้งก่อนที่ 1.0%
หุ้นซาฟรานของฝรั่งเศสซึ่งเป็นบริษัทซัพพลายเออร์ของโบอิ้ง พุ่งขึ้น 3.84% และมีส่วนช่วยหนุนตลาดหุ้นยุโรปขึ้นด้วย
นักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐในวันพุธและของธนาคารกลางอังกฤษในวันพฤหัสบดีนี้ โดยหลังจากปิดตลาดยุโรป คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ในการคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 1.50-1.75% ในการประชุมวานนี้ ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้ หลังจากที่ได้คงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งที่แล้ว และปรับลดอัตราดอกเบี้ยติดต่อกัน 3 ครั้งในปีที่แล้ว