ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดลบ เหตุผิดหวังผลประกอบการ,วิตกไวรัสระบาดกระทบเศรษฐกิจ

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday January 31, 2020 06:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (30 ม.ค.) หลังบวกขึ้นติดต่อกัน 2 วัน โดยตลาดถูกกดดันจากการเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวังของบริษัทจดทะเบียนในยุโรป และนักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จากจีน ซึ่งล่าสุดมีรายงานจำนวนผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ทั่วโลกในขณะนี้มากกว่า 8,100 ราย และมีผู้เสียชีวิต 170 รายแล้ว

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 1.01% ปิดที่ 415.16 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,871.77 จุด ลดลง 83.12 จุด หรือ -1.40%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,157.12 จุด ลดลง 187.88 จุด หรือ -1.41% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,381.96 จุด ลดลง 101.61 จุด หรือ -1.36%

ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลง โดยถูกกดดันจากการที่บริษัทจดทะเบียนหลายแห่งของยุโรปเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวัง อาทิ บริษัทรอยัล ดัชท์ เชลล์ ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันใหญ่ที่สุดของยุโรป เปิดเผยว่า กำไรของบริษัททรุดตัวลงอย่างมากในปีที่แล้ว จากปัจจัยเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว และราคาน้ำมันที่ดิ่งลง โดยเชลล์ระบุว่า บริษัทมีกำไร 1.6462 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2562 ดิ่งลง 23% เมื่อเทียบกับระดับ 2.1404 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2561 และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 1.7770 หมื่นล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่เริ่มขึ้นในจีน และกำลังแพร่กระจายไปทั่วโลก

ข้อมูลจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกล่าสุดระบุว่า จำนวนผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ทั่วโลกในขณะนี้มีจำนวนมากกว่าผู้ที่ติดเชื้อโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรงหรือ SARS ในปี 2545-46 โดยจำนวนผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ทั่วโลกในขณะนี้มากกว่า 8,100 รายและมีผู้เสียชีวิต 170 ราย

ส่วนผู้ที่ติดเชื้อโรค SARS ในปี 2545-46 มีจำนวน 8,098 ราย และมีผู้ที่เสียชีวิต 774 รายทั่วโลก และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกราว 3.3 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ 0.1% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของโลกในปี 2546

นักวิเคราะห์เตือนว่า เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกมากกว่า SARS เนื่องจากขณะนี้จีนมีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่ขึ้นมากกว่าในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโรค SARS โดยคาดว่าเชื้อไวรัสโคโรนาจะฉุดเศรษฐกิจจีนลดลง 1% ในไตรมาสแรกของปีนี้

หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงจากความวิตกเกี่ยวกับการระบาดของเชื้อไวรัสในจีนซึ่งเป็นประเทศที่ใช้โลหะมากเป็นอันดับ 1 ของโลก อาทิ หุ้นเกล็นคอร์ ลบ 1.07% และหุ้นแองโกล อเมริกัน ลดลง 0.81%

หุ้นกลุ่มการเดินทางและสันทนาการปรับตัวลงด้วย เนื่องจากสายการบินต่างๆ ระงับหรือลดเที่ยวบินไปยังจีน อาทิ หุ้นลุฟต์ฮันซา ลบ 0.99% และหุ้นอินเตอร์เนชันแนล คอนโซลิเดเต็ด แอร์ไลน์ ซึ่งเป็นเจ้าของสายการบินบริติช แอร์เวย์ ร่วง 3.31%

หุ้นกลุ่มสินค้าหรูหราปรับตัวลงด้วย เนื่องจากรายได้ส่วนใหญ่มาจากลูกค้าชาวจีน โดยหุ้นหลุยส์วิตตอง ร่วง 2.13%, หุ้นแอร์เมส ลดลง 1.83% และหุ้นเคอริ่ง เจ้าของแบรนด์กุชชี่ ปรับตัวลง 1.20%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ