ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (31 ม.ค.) สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์ หลังอังกฤษยืนยันการพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2 รายแรกในประเทศ และนักลงทุนวิตกว่าการระบาดของไวรัสดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ขณะที่อังกฤษมีกำหนดออกจากสหภาพยุโรป (EU) อย่างเป็นทางการในวันที่ 31 ม.ค.
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,286.01 จุด ลดลง 95.95 จุด หรือ -1.30%
ตลาดร่วงลงจากแรงขายหุ้นของนักลงทุน ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จากจีน หลังมีรายงานยืนยันการพบผู้ติดเชื้อ 2 รายแรกในอังกฤษ ซึ่งทั้งสองคนมาจากครอบครัวเดียวกัน
ด้านองค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศให้โรคระบาดดังกล่าวเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วโลก หลังจากที่มีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสดังกล่าวมากกว่า 200 คน และมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นกว่า 10,000 คนแล้ว
นอกจากนี้ เงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้นถ่วงหุ้นกลุ่มส่งออกร่วงลงด้วย โดยหุ้นเอชเอสบีซี ลบ 1.99%, หุ้นบีพี ร่วงลง 2.23% และหุ้นเชลล์ ลดลง 1.98%
ปอนด์แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง หลังจากธนาคารกลางอังกฤษมีมติ 7-2 เสียงให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.75% เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา