ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดบวก ขานรับข่าวจีนลดภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐ

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (6 ก.พ.) โดยปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 4 ติดต่อกันและแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังได้แรงหนุนจากตลาดหุ้นทั่วโลกที่ทะยานขึ้นขานรับข่าวจีนปรับลดภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ และตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่บรรดาบริษัทจดทะเบียนของยุโรปเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่ง

ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.44% ปิดที่ 425.49 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,038.18 จุด เพิ่มขึ้น 52.78 จุด หรือ +0.88%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,574.82 จุด เพิ่มขึ้น 96.49 จุด หรือ +0.72% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,504.79 จุด เพิ่มขึ้น 22.31 จุด หรือ +0.30%

ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นขานรับข่าวจีนจะปรับลดภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐวงเงิน 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยจีนจะปรับลดภาษีนำเข้าน้ำมันดิบจากสหรัฐสู่ระดับ 2.5% จากระดับ 5% ส่วนภาษีนำเข้าถั่วเหลืองจะลดลงสู่ระดับ 27.5% จากระดับ 30% ขณะที่ภาษีนำเข้าเนื้อหมู เนื้อวัว และเนื้อไก่ จะปรับลดลงสู่ระดับ 30% จากระดับ 35% โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ.เป็นต้นไป

ทั้งนี้ การปรับลดอัตราภาษีดังกล่าวเป็นไปตามเงื่อนไขในข้อตกลงการค้าเฟสแรกที่สหรัฐและจีนบรรลุข้อตกลงในปีที่แล้ว

หุ้นกลุ่มทรัพยากรที่อ่อนไหวต่อการค้า และหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นขานรับข่าวดังกล่าว

นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่หุ้นของบริษัทจดทะเบียนหลายแห่งในยุโรปพุ่งขึ้นหลังรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งด้วย อาทิ หุ้นยูนิเครดิตของอิตาลี พุ่ง 8.15%, หุ้นดีเอ็นบีของนอรเวย์ พุ่ง 6.75%, หุ้นนอร์เดีย แบงก์ของฟินแลนด์ พุ่ง 6.97%

หุ้นดอยซ์แบงก์ของเยอรมนี ทะยานขึ้น 12.90% หลังเปิดเผยว่าบริษัทแคปิตอล กรุ๊ปของสหรัฐเข้าถือหุ้น 3.1%

หุ้นซาโนฟี, หุ้นเรโนลต์ และหุ้นโททาลของฝรั่งเศส บวกขึ้น 4.14%, 3.28% และ 1.02% ตามลำดับ

หุ้นคิงฟิสเชอร์, หุ้นโวดาโฟน และหุ้นอีฟแรซของอังกฤษ ปรับตัวขึ้น 2.84%, 2.75% และ 2.74% ตามลำดับ