ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (10 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จากจีน หลังจากที่กระทรวงสาธารณสุขของอังกฤษประกาศว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นภัยคุกคามต่อสุขภาพของชาวอังกฤษ
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,446.88 จุด ลดลง 19.82 จุด หรือ -0.27%
ตลาดปรับตัวลงจากความวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา หลังนายแมทท์ แฮนคอค รมว.สาธารณสุขของอังกฤษ ประกาศว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่กำลังมีความรุนแรง และใกล้จะกลายเป็นภัยคุกคามต่อสุขภาพของชาวอังกฤษ
การประกาศดังกล่าวของนายแฮนคอคจะทำให้รัฐบาลมีอำนาจมากขึ้นในการกักตัวผู้ต้องสงสัยติดเชื้อไวรัสดังกล่าว ขณะที่ล่าสุด จำนวนผู้ติดเชื้อในอังกฤษได้เพิ่มขึ้นเป็น 8 รายในวันนี้
หุ้นกลุ่มน้ำมันถ่วงตลาดลงมากที่สุด โดยปรับตัวลงตามราคาน้ำมันดิบ โดยหุ้นบีพี ลบ 1.15% และหุ้นเชลล์ ลดลง 0.84%
แต่หุ้นเอ็นเอ็มซี เฮลธ์ พุ่งขึ้นสวนตลาด โดยทะยานขึ้นถึง 32.31% หลังได้รับการเสนอหุ้นจากบริษัทเอกชน 2 แห่งซึ่งได้แก่ Kohlberg Kravis Roberts & Co และ GK Investment Holding Group