ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 ก.พ.) โดยแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่หรือไวรัสโควิด-19 หลังจากพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงในจีน นอกจากนี้ การทะยานขึ้นของหุ้นกลุ่มสินค้าหรูหรา ซึ่งนำโดยหุ้นเคอริ่งซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์กุชชี่ ได้ช่วยหนุนตลาดขึ้นด้วย
ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.63% ปิดที่ 431.16 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,104.73 จุด เพิ่มขึ้น 49.98 จุด หรือ +0.83%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,749.78 จุด เพิ่มขึ้น 121.94 จุด หรือ +0.89% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,534.37 จุด เพิ่มขึ้น 34.93 จุด หรือ +0.47%
ตลาดปรับตัวขึ้น เนื่องจากนักลงทุนขานรับจีนรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนารายใหม่ที่อัตราต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ ซึ่งสนับสนุนการคาดการณ์ของที่ปรึกษาด้านการแพทย์ระดับสูงของจีนที่ว่า การระบาดจะสิ้นสุดลงภายในเดือนเม.ย.นี้
หุ้นเคอริ่ง พุ่งขึ้น 6.27% หลังรายงานผลประกอบการไตรมาส 4/2562 ที่ดีเกินคาด และบริษัทยังคงมีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับแนวโน้มในระยะยาว แม้ระบุว่า บริษัทได้ระงับการใช้จ่ายในจีน เนื่องจากความวิตกเกี่ยวกับไวรัสโคโรนาก็ตาม
หุ้นกลุ่มสินค้าหรูหราอื่นๆ ปรับตัวขึ้นด้วย อาทิ หุ้นหลุยส์ วิตตอง พุ่ง 3.00%, หุ้นคริสเตียน ดิออร์ บวก 2.27%, หุ้นฮูโก บอสส์ เพิ่มขึ้น 1.01% และหุ้นเบอเบอร์รี ปรับตัวขึ้น 2.80%
นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ที่พึ่งพาตลาดจีนปรับตัวขึ้นด้วย หลังราคาสินแร่เหล็กและโลหะพื้นฐานดีดตัวขึ้น