ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (18 ก.พ.) โดยถูกกดดันจากการที่บริษัทแอปเปิล อิงค์เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่หรือโควิด-19 ในจีน อาจทำให้บริษัทพลาดเป้าหมายรายได้ที่ตั้งไว้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อบรรดาซัพพลายเออร์ของ iPhone และตอกย้ำถึงผลกระทบของไวรัสโควิดต่อห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก นอกจากนี้ ตลาดยังถูกถ่วงลง หลังการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนีที่ดิ่งลงสู่ระดับต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.38% ปิดที่ 430.33 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,056.82 จุด ลดลง 29.12 จุด หรือ -0.48%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,681.19 จุด ลดลง 102.70 จุด หรือ -0.75% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,382.01 จุด ลดลง 51.24 จุด หรือ -0.69%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงตามตลาดหุ้นทั่วโลก หลังจากบริษัทแอปเปิลรายงานว่า แนวโน้มยอดขายของบริษัทในไตรมาส 2/2563 จะไม่เป็นไปตามเป้าหมาย อันเนื่องมาจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในจีน
หุ้นที่พึ่งพาตลาดจีน อาทิ กลุ่มรถยนต์ และกลุ่มวัสดุพื้นฐาน ได้รับผลกระทบด้วย
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันหลังศูนย์วิจัยเศรษฐกิจยุโรป (ZEW) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนีดิ่งลงสู่ระดับ 8.7 ในเดือนก.พ. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 21.0 จากระดับ 26.7 ในเดือนม.ค. โดยดัชนีความเชื่อมั่นได้รับผลกระทบจากความวิตกที่ว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะกระทบการค้าทั่วโลก
นอกจากนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ร่วงลงสู่ระดับ -15.7 ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ -10.5 จากระดับ -9.5 ในเดือนม.ค.
หุ้นเรโนลต์ของฝรั่งเศส ร่วง 6.31% หลังยูบีเอสปรับลดเป้าหมายราคาหุ้น หลังเรโนลต์ประกาศปรับลดต้นทุนในสัปดาห์ที่ผ่านมา
หุ้นเอชเอสบีซี โฮลดิ้งส์ของอังกฤษ ร่วง 5.97% หลังเปิดเผยว่า ธนาคารจะปรับลดมูลค่าสินทรัพย์ลง 1 แสนล้านดอลลาร์ และลดพนักงาน 35,000 คนในการปรับโครงสร้างธนาคารในช่วง 3 ปีข้างหน้า