ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 ก.พ.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดทำนิวไฮ โดยได้แรงหนุนจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า จีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 โดยมาตรการดังกล่าวอาจรวมถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ Loan Prime Rate (LPR) ในวันนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่ยังคงมีมุมมองบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิด 29,348.03 จุด เพิ่มขึ้น 115.84 จุด หรือ +0.40% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,386.15 จุด เพิ่มขึ้น 15.86 จุด หรือ +0.47% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,817.18 จุด เพิ่มขึ้น 84.44 จุด หรือ +0.87%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นขานรับความหวังที่ว่า ทางการจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ย LPR ในวันนี้ โดยหน่วยงานของธนาคารกลางจีนจะเปิดเผยระดับอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภทอายุ 1 ปีและ 5 ปีในทุกวันที่ 20 ของเดือน
ขณะเดียวกันนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หลังจากคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ ณ วันอังคารที่ 18 ก.พ. เพิ่มขึ้นเพียง 1,749 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 29 ม.ค.
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนหลังจากรายงานการประชุมเดือนม.ค.ของเฟดระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่มองว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ และนโยบายการเงินในปัจจุบันก็มีความเหมาะสมที่จะสนับสนุนเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน ส่วนความเสี่ยงต่างๆที่จะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในขณะนี้ มีน้อยกว่าในช่วงที่ผ่านมา
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้น โดยหุ้นแอปเปิล พุ่งขึ้น 1.45% หุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดิไวซ์ (เอเอ็มดี) ทะยานขึ้น 3.5% หุ้นไมโครซอฟท์ เพิ่มขึ้น 0.3% หุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล ดีดตัวขึ้น 0.36% หุ้นอเมซอนดอทคอม บวก 0.67% หุ้นอินเทล พุ่งขึ้น 1.47% หุ้น Nvidia ทะยานขึ้น 6.1%
หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นกว่า 2% เมื่อคืนนี้ โดยหุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม พุ่งขึ้น 2.26% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน พุ่งขึ้น 1.92% หุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี ทะยานขึ้น 9.8% หุ้นอาปาเช คอร์ป พุ่งขึ้น 1.28% หุ้นเอ็กซอน โมบิล บวก 0.7% หุ้นเชฟรอน เพิ่มขึ้น 0.45%
หุ้นอูเบอร์ เทคโนโลยีส์ พุ่งขึ้น 2.19% หลังจากบริษัทประกาศปิดสำนักงานฝ่ายสนับสนุนลูกค้าที่ตั้งอยู่ในลอส แองเจลิส พร้อมกับปลดพนักงานราว 80 คน นอกจากนี้ อูเบอร์จะโยกย้ายงานบางส่วนไปยังสำนักงานของบริษัทที่ตั้งในกรุงมะนิลาของฟิลิปปินส์ โดยถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นหลังจากบริษัทประสบภาวะขาดทุนเพิ่มขึ้น ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงทั่วโลก
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) พุ่งขึ้น 0.5% ในเดือนม.ค.เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2561 หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนธ.ค.
ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านลดลง 3.6% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 1.567 ล้านยูนิต จากระดับ 1.626 ล้านยูนิตในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2549
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเดือนก.พ.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนม.ค.จาก Conference Board, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนก.พ.จากมาร์กิต, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนก.พ.จากมาร์กิต และยอดขายบ้านมือสองเดือนม.ค.