ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวแคบในวันนี้ หลังจากที่นายริชาร์ด แคลริดา รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า เขาไม่คาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
ณ เวลา 22.42 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 29,358.10 จุด บวก 10.07 จุด หรือ 0.04%
ทั้งนี้ นายแคลริดากล่าวว่า เขาไม่คาดว่านักลงทุนส่วนใหญ่ในตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ แม้มีการส่งสัญญาณว่าตลาดได้ปรับตัวรับคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
นายแคลริดากล่าวว่า นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ไม่คาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในไม่ช้า
ทางด้าน FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 1 ครั้งในปีนี้ ขณะที่สัญญาอัตราดอกเบี้ยฟิวเจอร์บ่งชี้ว่า เฟดอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนมิ.ย.หรือก.ค. แต่ไม่เกินเดือนก.ย.
ทั้งนี้ การคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดมีขึ้น ขณะที่นักลงทุนมีความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่มีต่อเศรษฐกิจโลก
อย่างไรก็ดี นายแคลริดาและนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ที่ได้รับการสำรวจไม่คาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
ขณะเดียวกัน นายแคลริดากล่าวย้ำว่าปัจจัยพื้นฐานของสหรัฐยังคงมีความแข็งแกร่ง แม้ว่าเฟดยังคงจับตาความเสี่ยงต่างๆ โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งจะกระทบต่อเศรษฐกิจจีนในไตรมาสแรก
อย่างไรก็ดี ยังไม่มีสิ่งบ่งชี้ในขณะนี้ว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะกระทบต่อนโยบายการเงินของเฟด
ทางด้านเอสแอนด์พี โกลบอล เรทติ้งส์ ออกรายงานเตือนว่าภาคธนาคารของจีนอาจได้รับผลกระทบจากหนี้เสียสูงถึง 1.1 ล้านล้านดอลลาร์จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ส่วนโกลด์แมน แซคส์ระบุว่า นักลงทุนกำลังประเมินผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ต่ำเกินไป โดยตลาดมีความเสี่ยงอย่างมากที่จะเผชิญกับการปรับฐาน
ราคาหุ้นบริษัทโดมิโนส์ พิซซา อิงค์ พุ่งขึ้นกว่า 20% หลังเปิดเผยกำไรและรายได้สูงกว่าคาดในไตรมาส 4
ทั้งนี้ โดมิโนส์ระบุว่า บริษัทมีกำไรที่ระดับ 3.13 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.98 ดอลลาร์/หุ้น
นอกจากนี้ บริษัทมีรายได้ที่ระดับ 1.15 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.13 พันล้านดอลลาร์
ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 4,000 ราย สู่ระดับ 210,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ ลดลง 3,250 ราย สู่ระดับ 209,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว
สำหรับจำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 8 ก.พ. มีจำนวนเพิ่มขึ้น 25,000 ราย สู่ระดับ 1.73 ล้านราย
ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานอย่างต่อเนื่อง มีจำนวนลดลง 5,250 ราย สู่ระดับ 1.72 ล้านราย