ตลาดหุ้นยุโรปปิดดิ่งลงเมื่อคืนนี้ (24 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการที่ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นนอกประเทศจีน และอาจแพร่ระบาดลุกลามไปทั่วโลก รวมทั้งอาจส่งผลกระทบรุนแรงต่อภาวะเศรษฐกิจโลก ขณะที่ตลาดหุ้นอิตาลีทรุดตัวลงอย่างหนัก หลังรายงานการพบผู้ติดเชื้อมากกว่า 200 ราย และมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 6 ราย
ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 3.79% ปิดที่ 411.86 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,791.87 จุด ร่วง 237.84 จุด หรือ -3.94%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,035.24 จุด ดิ่งลง 544.09 จุด หรือ -4.01% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,156.83 จุด ร่วง 247.09 จุด หรือ -3.34%
ตลาดหุ้นยุโรปดิ่งลงเป็นเปอร์เซนต์รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่อังกฤษลงมติแยกตัวออกจาสภาพยุโรปในเดือนมิ.ย. 2559 เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นออกมา ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นนอกประเทศจีน โดยมีรายงานว่าจำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นในเกาหลีใต้ และอิหร่าน
หุ้นกลุ่มสายการบินร่วงลงอย่างหนัก โดยหุ้นอีซี่เจ็ต ดิ่งลง 16.67%, หุ้นไรอันแอร์ ร่วง 13.79%, หุ้นแอร์ฟรานซ์ ร่วง 8.68% และหุ้นลุฟต์ฮันซา ร่วงลง 8.81%
หุ้นกลุ่มอื่นๆ ที่อ่อนไหวต่อผลกระทบด้านเศรษฐกิจโลก ปรับตัวลงด้วย อาทิ หุ้นกลุ่มสินค้าหรูหรา, กลุ่มเหมืองแร่, กลุ่มรถยนต์, กลุ่มผู้ผลิตชิป และกลุ่มธนาคาร
หุ้นเอสทีไมโครอิเล็กทรอนิกส์, หุ้นเปอร์โยต์ และหุ้นอาร์เซลอร์มิตตัลของฝรั่งเศส ร่วง 7.03%, 6.97% และ 6.72% ตามลำดับ, หุ้นเดมเลอร์ และหุ้นอาดิดาสของเยอรมนี ร่วง 6.74% และ 6.16% ตามลำดับ ขณะที่หุ้นเกล็นคอร์ และหุ้นเอชเอสบีซีของอังกฤษ ร่วง 5.54% และ 2.03% ตามลำดับ