ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (24 ก.พ.) โดยทรุดตัวลงรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 4 ปีครึ่ง เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นออกมาท่ามกลางความวิตกว่าเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) จะระบาดลุกลามไปทั่วโลก หลังจากพบจำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นอย่างมากนอกประเทศจีน และอาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อภาวะเศรษฐกิจโลก
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,156.83 จุด ร่วงลง 247.09 จุด หรือ -3.34%
ตลาดหุ้นอังกฤษดิ่งลงอย่างหนัก เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นจากความวิตกว่าเชื้อไวรัสโควิด-19 จะระบาดทั่วโลก หลังมีรายงานว่าพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างมากในอิหร่าน, อิตาลี และเกาหลีใต้ และการแพร่ระบาดของไวรัสดังกล่าวอาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจโลก
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจของจีนในปี 2563 ลงสู่ระดับ 5.6% โดยลดลง 0.4% จากที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนม.ค. อันเนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงเกือบ 6% โดยหุ้นเกล็นคอร์ ร่วง 5.54% และหุ้นแองโกล อเมริกัน ดิ่งลง 8.57%
นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มสายการบินร่วงลงอย่างหนักด้วยเช่นกัน โดยหุ้นอีซี่เจ็ต ดิ่งลง 16.67% และหุ้นไอเอจี เจ้าของสายการบินบริติช แอร์เวย์ ร่วง 9.15%