ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงอย่างต่อเนื่องในวันนี้ ล่าสุดดิ่งลงเกือบ 300 จุด ขณะที่นักลงทุนยังคงวิตกต่อการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ณ เวลา 23.51 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 27,675.92 จุด ลบ 284.88 จุด หรือ 1.02%
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการดิ่งลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร ขณะที่ตลาดพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเกิดภาวะ inverted yield curve เป็นวันที่ 6 ซึ่งเป็นภาวะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นอยู่สูงกว่าพันธบัตรระยะยาว โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 3 เดือน อยู่สูงกว่าพันธบัตรอายุ 10 ปี ซึ่งเป็นการบ่งชี้ถึงแนวโน้มการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ส่งผลให้หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงในวันนี้
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐยังคงดิ่งลงในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนพากันเข้าซื้อพันธบัตรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกต่อผลกระทบที่มีต่อเศรษฐกิจโลกจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 3 เดือนอยู่ที่ระดับ 1.538% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ร่วงลงแตะระดับ 1.32% ในวันนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2559 ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ทรุดตัวลงสู่ระดับ 1.7987% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
ดัชนีดาวโจนส์ปิดทรุดตัวลงกว่า 1,000 จุดเมื่อคืนนี้ หลังจากมีรายงานว่าผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 นอกประเทศจีนมีจำนวนเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดความวิตกกังวลว่า การลุกลามอย่างรวดเร็วของไวรัสโควิด-19 อาจส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจทั่วโลก
การทรุดตัวลงกว่า 1,000 จุดเมื่อคืนนี้ ทำให้ดาวโจนส์ทำสถิติร่วงลงมากที่สุดภายในวันเดียวนับตั้งแต่เดือนก.พ.2561 และส่งผลให้ดาวโจนส์ลบช่วงบวกทั้งหมดที่ทำไว้ตั้งแต่ต้นปีนี้
ทางด้านสหรัฐเตรียมทำการทดลอง remdesivir ซึ่งเป็นยาต้านไวรัสโควิด-19 ของบริษัท Gilead Sciences Inc ผู้ผลิตยาต้านเอดส์รายใหญ่ของโลก
ทั้งนี้ ศูนย์การแพทย์ของมหาวิทยาลัยเนบราสกาจะเป็นผู้ทดสอบยา remdesivir ร่วมกับสถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติ โดยจะทดลองยา remdesivir ในสถานที่ 50 แห่งทั่วโลก
นายแพทย์บรู๊ซ เอลเวิร์ด ซึ่งเป็นแพทย์ประจำองค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวว่า remdesivir เป็นยาตัวเดียวในขณะนี้ที่มีประสิทธิภาพในการต้านไวรัสโควิด-19 หลังจากที่เคยมีการทดสอบกับผู้ป่วย 2 รายในเมืองอู่ฮั่นของจีน
นอกจากนี้ ยังมีการใช้ยา remdesivir ในการรักษาผุ้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายแรกในสหรัฐ ซึ่งส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นในวันรุ่งขึ้น
ขณะเดียวกัน remdesivir ยังเป็นยาที่มีประสิทธิภาพในการต้านโคโรนาไวรัสที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรค SARS และ MERS