ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (25 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเทขายหุ้นออกมาท่ามกลางความวิตกว่าเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) จะระบาดลุกลามไปทั่วโลก หลังจากมีรายงานว่าพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในยุโรปและอิหร่าน
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,017.88 จุด ลดลง 138.95 จุด หรือ -1.94%
นักลงทุนพากันเทขายหุ้นออกมา เนื่องจากวิตกกับการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของไวรัสโควิด-19 ขณะที่มีรายงานว่า สเปน, สวิตเซอร์แลนด์, โครเอเชีย และออสเตรีย ได้ยืนยันการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายแรกในประเทศ ขณะที่อิตาลีกลายเป็นประเทศที่เชื้อโควิด-19 แพร่ระบาดมากที่สุดในยุโรป โดยมีผู้ติดเชื้อ 260 คน และมีผู้เสียชีวิต 10 คน
หุ้นกลุ่มธนาคาร, กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค และกลุ่มพลังงานถ่วงตลาดลงมากที่สุด โดยหุ้นเอชเอสบีซี ลดลง 2.02% และหุ้นสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ร่วงลง 3.66%
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง หลังราคาน้ำมันลดลงต่ำกว่าระดับ 56 ดอลลาร์/บาร์เรลและปรับตัวลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันแล้ว โดยหุ้นบีพี ร่วง 2.18% และหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ร่วงลง 1.81%