ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่ 5 เมื่อคืนนี้ (26 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ซึ่งขณะนี้ลุกลามออกไปยังยุโรปและสหรัฐ โดยล่าสุดสำนักงานสาธารณสุขของเขตแนสซอในรัฐนิวยอร์ก ประกาศจับตาพลเมืองกว่า 80 คนที่เดินทางกลับจากประเทศจีน ขณะที่เจ้าหน้าที่ของสำนักงานอาหารและยาของสหรัฐ (FDA) เตือนว่า ไวรัสโควิด-19 มีแนวโน้มที่จะแพร่ระบาดไปทั่วโลก (Pandemic)
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,957.59 จุด ลดลง 123.77 จุด หรือ -0.46% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,116.39 จุด ลดลง 11.82 จุด หรือ -0.38% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,980.77 จุด เพิ่มขึ้น 15.16 จุด หรือ +0.17%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่า สำนักงานสาธารณสุขของเขตแนสซอในรัฐนิวยอร์กของสหรัฐได้ประกาศจับตาพลเมือง 83 คนที่เดินทางกลับจากประเทศจีน เนื่องจากกังวลว่าพลเมืองเหล่านี้อาจจะสัมผัสกับเชื้อไวรัสโควิด-19 แม้ว่านายแอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่พบการติดเชื้อภายในรัฐก็ตาม
ตลาดได้รับแรงกดดันมากขึ้นเมื่อนายปีเตอร์ มาร์คส ผู้อำนวยการศูนย์การประเมินและวิจัยด้านชีวภาพของ FDA ได้ออกมาเตือนว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งมีต้นตอมาจากประเทศจีนนั้น มีแนวโน้มที่จะแพร่กระจายไปทั่วโลก
"ตามที่ท่านได้ยินคำเตือนจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ (CDC) ว่าให้เราเตรียมรับมือกับแพร่ระบาดขั้นร้ายแรงของไวรัสโควิด-19 มุมมองของเราก็คือว่า ภัยคุกคามที่เกิดจากไวรัสโควิด-19 ในขณะนี้อยู่ในระดับที่สูงมาก ทั้งในระดับโลกและภายในสหรัฐเอง" นายมาร์คสเปิดเผยกับผู้สื่อข่าว
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ดิ่งลงติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 2.2% หุ้นเชฟรอน ดิ่งลง 2.6% หุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม ร่วงลง 5.4% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ร่วงลง 3.2% หุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี ทรุดตัวลง 30.48% หุ้นอาปาเช คอร์ป ร่วงลง 4.2%
หุ้นโลว์ส ซึ่งเป็นบริษัทจำหน่ายสินค้าตกแต่งบ้านรายใหญ่ของสหรัฐ ร่วงลง 4.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ในไตรมาส 4/2562 ที่ระดับ 1.603 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.615 หมื่นล้านดอลลาร์
หุ้นวอลท์ ดิสนีย์ ร่วงลง 3.7% หลังจากมีรายงานว่า นายโรเบิร์ต ไอเกอร์ ลาออกจากตำแหน่งซีอีโอของวอลท์ ดิสนีย์ และนายบ็อบ ชาเพ็ค ประธานธุรกิจดิสนีย์ปาร์คส์ จะเข้ามาดำรงตำแหน่งดังกล่าวแทนนายไอเกอร์
หุ้นเวนดีส์ โค ซึ่งเป็นผู้ประกอบการอาหารฟาสต์ฟู้ด ร่วงลง 4.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ผลกำไรในปีงบการเงิน 2563 ที่น้อยกว่าการคาดการณ์ของตลาด
อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและผู้ผลิตชิปฟื้นตัวขึ้นหลังจากถูกเทขายอย่างหนักในช่วงก่อนหน้านี้ โดยหุ้น Nvidia พุ่งขึ้น 2.14% หุ้นแอปเปิล พุ่งขึ้น 1.6% หุ้นไมโครซอฟท์ เพิ่มขึ้น 1.25% หุ้นอัลฟาเบท บวก 0.3% หุ้นเฟซบุ๊ก บวก 0.2% หุ้นไมครอน เทคโนโลยี บวก 0.5%
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยล่าสุดและมีผลต่อความเคลื่อนไหวในตลาดเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่พุ่งขึ้น 7.9% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 764,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2550 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 710,000 ยูนิต หลังจากแตะระดับ 708,000 ยูนิตในเดือนธ.ค.
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนม.ค., ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4 (ประมาณการครั้งที่ 2), ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนม.ค., ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนม.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนม.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
นักลงทุนรอดูการแถลงข่าวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ (CDC) เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยการแถลงข่าวจะจัดขึ้นที่ทำเนียบขาวในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาไทย