ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (6 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเทขายหุ้นออกมาจากความวิตกเกี่ยวกับความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และนักลงทุนได้พากันเข้าซื้อพันธบัตรซึ่งเป็นแหล่งลงทุนที่ปลอดภัย ซึ่งส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรร่วงลง
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,462.55 จุด ลดลง 242.88 จุด หรือ -3.62%
นักลงทุนแห่ขายหุ้นออกมาจากความวิตกที่ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกพุ่งขึ้นอย่างมาก และได้สร้างความเสียหายด้านเศรษฐกิจมากขึ้น ขณะที่ประเทศต่างๆ ได้ออกข้อจำกัดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด
มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์เปิดเผยข้อมูลระบุว่า ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกจำนวนมากกว่า 100,000 ราย โดยจำนวนผู้ติดเชื้อยังคงเพิ่มมากขึ้นนอกประเทศจีน
ด้านรัฐบาลอังกฤษออกแถลงการณ์ยืนยันว่า พบผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายแรกในอังกฤษ ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อภายในประเทศขณะนี้พุ่งขึ้นเป็น 116 ราย ณ วันศุกร์ที่ 6 มี.ค.
หุ้นกลุ่มธนาคารที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยร่วงลง ขณะที่บรรดเทรดเดอร์คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมวันที่ 17-18 มี.ค.นี้
หุ้นเอชเอสบีซี ร่วง 2.49%, หุ้นบาร์เคลยส์ ร่วง 2.78% และหุ้นสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ร่วง 2.37%
หุ้นกลุ่มอาหาร, เวชภัณฑ์, การเดินทางและสันทนาการ ปรับตัวลงตามกัน เนื่องจากการระบาดของไวรัสโควิดกระทบห่วงโซ่อุปทานและบริษัทยุโรปบางแห่งต้องอพยพพนักงาน
หุ้นกลุ่มสายการบิน และเรือสำราญยังคงร่วงลงต่อไปจากผลกระทบของอุปสงค์การเดินทางที่ลดลง เพราะความหวาดกลัวเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19