ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าวันนี้ร่วงลง เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ราคาน้ำมัน ภายหลังจากที่ซาอุดีอาระเบียวางแผนปรับเพิ่มการผลิตน้ำมันกว่า 10 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือนเม.ย. หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และพันธมิตรที่นำโดยรัสเซีย ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงปรับลดการผลิตน้ำมันในการประชุมที่กรุงเวียนนาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 25,230.55 จุด ลดลง 916.12 จุด, -3.50% ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 19,473.07 จุด ลดลง 1,276.68 จุด, -6.15% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,438.35 จุด ลดลง 44.75 จุด, -3.02%
ทางด้านอารามโค ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันของรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย ได้ปรับลดราคาขายน้ำมันอย่างเป็นทางการ (OSP) สำหรับน้ำมันดิบทุกเกรดที่ส่งมอบให้กับลูกค้าทุกประเทศ
ข่าวดังกล่าวส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบทรุดตัวลงอย่างหนักในช่วงเช้านี้ ณ เวลา 06.07 น. ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนเม.ย. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX ลดลง 8.75 ดอลลาร์ หรือ 21.20% สู่ระดับ 32.53 ดอลลาร์/บาร์เรล
คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) แถลงวันนี้ว่า ณ วันอาทิตย์ที่ 8 มี.ค. มีผู้เสียชีวิตจากโรคปอดอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในจีน เพิ่มขึ้นอีก 22 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตทั่วประเทศจีน เพิ่มเป็น 3,119 ราย
ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วประเทศ เพิ่มขึ้นอีก 40 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อทั่วประเทศ เพิ่มขึ้นเป็น 80,735 ราย
ข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้มีการเปิดเผยแล้วในวันนี้ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของญี่ปุ่นไตรมาส 4/2562 หดตัวลง 7.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งย่ำแย่กว่าตัวเลขประมาณการเบื้องต้นที่ระบุว่า GDP ไตรมาส 4 หดตัวลง 6.3%
สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า หากเทียบเป็นรายไตรมาส GDP ไตรมาส 4 ของญี่ปุ่นหดตัวลง 1.8% ซึ่งย่ำแย่กว่าตัวเลขประมาณการเบื้องต้นที่ระบุว่า หดตัวลง 1.6%