ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (11 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แม้ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง และรัฐบาลอังกฤษเปิดเผยแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 3 หมื่นล้านปอนด์ (3.9 หมื่นล้านดอลลาร์) ก็ตาม
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,876.52 จุด ลดลง 83.71 จุด หรือ -1.40%
ตลาดปรับตัวลง หลังได้แรงหนุนในช่วงแรกจากการที่ BoE ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยฉุกเฉินลง 0.50% สู่ระดับ 0.25% ในวันพุธเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และได้แรงหนุนจากแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล
บรรดานักลงทุนยังคงขายหุ้นออกมา ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดมากขึ้นของไวรัสโควิด-19 โดยมีรายงานว่านางนาดีน ดอร์รีส์ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขและสมาชิกพรรคอนุรักษ์นิยมของอังกฤษติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อในอังกฤษอยู่ที่ 456 ราย และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 6 ราย
ตลาดหุ้นลอนดอนร่วงลงเป็นวันที่ 5 ติดต่อกันแล้ว โดยหุ้นกลุ่มการเดินทางและสันทนาการร่วงลงหนักที่สุด ขณะที่หุ้นกลุ่มอาหาร, เวชภัณฑ์ และค้าปลีก ปรับตัวลงด้วย
หุ้นอีซี่เจ็ตร่วง 7.59% และ หุ้นโคคา-โคลา เอชบีซี ร่วง 8.39%
การร่วงลงของราคาน้ำมันฉุดหุ้นกลุ่มน้ำมันลงด้วย โดยหุ้นบีพี และหุ้นเชลล์ปิดร่วงลง 3.6% และ 2.4% ตามลำดับ