ตลาดหุ้นยุโรปมีแนวโน้มทำสถิติทรุดตัวลงหนักที่สุดเป็นประวัติการณ์ในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนวิตกต่อการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศระงับการเดินทางจากประเทศในยุโรปเข้าสู่สหรัฐ
นอกจากนี้ นักลงทุนยังผิดหวังต่อการที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันนี้ แม้ตลาดการเงินคาดการณ์ว่า ECB จะปรับลดดอกเบี้ยเพื่อลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx 600 ดิ่งลง 10% ในการซื้อขายช่วงบ่าย ขณะที่หุ้นกลุ่มเดินทางและสันทนาการทรุดตัวลง 13%
ปธน.ทรัมป์ประกาศว่า สหรัฐจะระงับการเดินทางจากประเทศในยุโรปทั้งหมด ยกเว้นสหราชอาณาจักร ในช่วง 30 วันข้างหน้า โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เที่ยงคืนวันพรุ่งนี้
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังได้ตำหนิสหภาพยุโรป (EU) ที่ไม่ดำเนินมาตรการควบคุมการเดินทางจากจีนตั้งแต่ช่วงที่ไวรัสโควิด-19 เริ่มแพร่ระบาด
ทางด้าน ECB จัดการประชุมนโยบายการเงินในวันนี้ โดยที่ประชุมมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% โดยเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.50% ขณะที่คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25%
นอกจากนี้ ECB ระบุว่า จะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับปัจจุบันต่อไป หรือปรับลดลง จนกว่าอัตราเงินเฟ้อจะเข้าใกล้เป้าหมายของ ECB ซึ่ง"อยู่ใกล้ แต่ไม่เกินระดับ 2%"
อย่างไรก็ดี ECB ประกาศเพิ่มวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อีก 1.2 แสนล้านยูโรจนถึงสิ้นปีนี้
นอกจากนี้ ECB ระบุว่าจะให้สินเชื่อครั้งใหม่แก่ภาคธนาคาร โดยเสนออัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ต่ำลง เพื่อให้ธนาคารปล่อยกู้แก่ธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์โควิด-19