ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 100 จุดวันนี้ โดยปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากวานนี้ หลังมีการซื้อขายอย่างผันผวนในสัปดาห์นี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ณ เวลา 20.55 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 20,188.65 จุด บวก 101.46 จุด หรือ 0.51%
ข้อมูลล่าสุดจากมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ระบุว่า ขณะนี้ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวนมากกว่า 245,484 ราย ขณะที่มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10,031 ราย
นอกจากนี้ สหรัฐมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวนอย่างน้อย 14,250 ราย ขณะที่มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 205 ราย
ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทได้ปัจจัยบวกจากการที่รัฐบาลสหรัฐและธนาคารกลางทั่วโลกเดินหน้าออกมาตรการฉุกเฉินเพื่อบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ เฟดประกาศความร่วมมือกับธนาคารกลางออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ บราซิล เดนมาร์ก เม็กซิโก นอร์เวย์ สวีเดน เกาหลีใต้ และสิงคโปร์ ในการทำข้อตกลงสว็อปเพื่อเพิ่มสภาพคล่องสกุลเงินดอลลาร์ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ระบบการเงินทั่วโลกประสบปัญหาสกุลเงินดอลลาร์ตึงตัว เนื่องจากนักลงทุนแห่ซื้อดอลลาร์ ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ทางด้านธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยฉุกเฉิน 0.15% สู่ระดับ 0.10% เมื่อวานนี้ และเพิ่มวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อีก 2 แสนล้านปอนด์ สู่ระดับ 6.45 แสนล้านปอนด์ ขณะที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศโครงการใหม่ในการซื้อหลักทรัพย์ของภาคเอกชนและภาครัฐวงเงินรวม 7.50 แสนล้านยูโร โดยการดำเนินการของธนาคารกลางทั้งสองแห่งมีเป้าหมายที่จะรับมือกับความเสี่ยงต่างๆ ที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ลงนามในกฎหมาย "Families First Coronavirus Response Act" ซึ่งครอบคลุมถึงมาตรการแจกเงินสดแก่ชาวอเมริกันวงเงิน 5 แสนล้านดอลลาร์ และมาตรการสนับสนุนทางการเงินแก่อุตสาหกรรมการบินวงเงิน 5 หมื่นล้านดอลลาร์