ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (23 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นออกมาท่ามกลางความวิตกว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อาจส่งผลให้เศรษฐกิจยุโรปเข้าสู่ภาวะถดถอยในปีนี้ ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางและรัฐบาลประเทศต่างๆ ไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน
ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วง 4.30% ปิดที่ 280.43 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3,914.31 จุด ลดลง 134.48 จุด หรือ -3.32%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 8,741.15 จุด ลดลง 187.80 จุด หรือ -2.10% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 4,993.89 จุด ลดลง 196.89 จุด หรือ -3.79%
ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงอย่างหนัก โดยถูกกดดันจากแนวโน้มที่เศรษฐกิจยุโรปจะเข้าสู่ภาวะถดถอย หลังจากที่ประเทศต่างๆ ในยุโรปที่เผชิญกับการแพร่ระบาดอย่างหนักของไวรัสโควิด-19 ได้ทำการล็อกดาวน์ประเทศในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้แนวโน้มเศรษฐกิจย่ำแย่ลง และอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย โดยนักเศรษฐศาสตร์ของยูบีเอสคาดว่า เศรษฐกิจยุโรปอาจจะหดตัวลง 4.5% ในปีนี้
กรีซ, ฝรั่งเศสและสเปน ประกาศมาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศ ส่วนอิตาลีประกาศห้ามการเดินทางในประเทศ ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตพุ่งขึ้นถึง 6,000 ราย
หุ้นกลุ่มการเดินทางและสันทนาการร่วงลงอย่างหนัก ขณะที่ประเทศต่างๆ จำนวนมากขึ้นปิดพรมแดนและจำกัดการเคลื่อนไหวภายในประเทศ
หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมดิ่งลงราว 6% เนื่องจากโรงงานหลายแห่งต้องปิดทำการเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
หุ้นแอร์บัส และหุ้นซาฟรานของฝรั่งเศส ร่วงลง 13.77% และ 13.84% ตามลำดับ, หุ้นอาดิดาส และหุ้นไบเออร์ของเยอรมนี ร่วง 5.68% และ 5.19% ตามลำดับ ขณะที่หุ้นฮาร์กรีฟส์ แลนส์ดาวน์ และหุ้นอีซี่เจ็ตของอังกฤษ ร่วง 17.08% และ 13.10% ตามลำดับ