ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องในวันนี้ ล่าสุดทะยานขึ้นกว่า 1,000 จุด หลังจากดีดตัวกว่า 2,100 จุดวานนี้ ขานรับปัจจัยบวกจากการที่ทำเนียบขาวและวุฒิสภาสหรัฐสามารถบรรลุข้อตกลงในการออกมาตรการเยียวยาชาวอเมริกันและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19
นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนจากการที่นายเบน เบอร์นันเก้ อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะพลิกกลับมาฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากที่เผชิญกับภาวะถดถอยจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19
ณ เวลา 23.52 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 21,757.74 จุด บวก 1,052.83 จุด หรือ 5.08%
ทั้งนี้ ทำเนียบขาวและแกนนำพรรคเดโมแครตในวุฒิสภาสามารถบรรลุข้อตกลงในการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 โดยมาตรการดังกล่าวมีวงเงินสูงถึง 2 ล้านล้านดอลลาร์
การบรรลุข้อตกลงในครั้งนี้มีขึ้นหลังจากคณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และแกนนำพรรคเดโมแครต ได้เจรจาต่อรองกันนานหลายชั่วโมง โดยนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ และนายมาร์ค มีโดว์ส ว่าที่หัวหน้าคณะทำงานของทำเนียบขาว ได้พยายามผลักดันมาตรการดังกล่าวในระหว่างการประชุมร่วมกับสมาชิกพรรครีพับลิกัน และพรรคเดโมแครต
มาตรการดังกล่าวครอบคลุมการจัดสรรเงินกู้วงเงิน 3.67 แสนล้านดอลลาร์ให้กับธุรกิจขนาดเล็ก และสนับสนุนโครงการที่จะจัดสรรเงินให้แก่กระทวงการคลังในวงเงิน 5 แสนล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ ชาวอเมริกันที่เป็นผู้ใหญ่จะได้รับเงินสดโดยตรงคนละ 1,200 ดอลลาร์ ขณะที่เด็กจะได้รับเช็คเงินสดคนละ 500 ดอลลาร์ ส่วนโรงพยาบาลต่างๆจะได้รับการจัดสรรเงินรวม 1.50 แสนล้านดอลลาร์ภายใต้มาตรการดังกล่าว และธุรกิจขนาดเล็กจะได้รับเงินช่วยเหลือในวงเงินรวม 3.67 แสนล้านดอลลาร์
นายเบน เบอร์นันเก้ อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แสดงความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจสหรัฐในระยะยาว โดยระบุว่าเศรษฐกิจจะเผชิญกับภาวะถดถอยอย่างรุนแรง แต่ก็จะฟื้นตัวขึ้นในเวลาต่อมา
"มีความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจจะถดถอยอย่างรุนแรงในไตรมาสต่อไป แต่จะเกิดขึ้นในเวลาสั้นๆ เพราะมีการชัตดาวน์จากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 แต่ถ้าหากตลาดแรงงานไม่ได้ถูกกระทบมากเกินไป เราก็จะเห็นการดีดตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว" นายเบอร์นันเก้กล่าว
นายเบอร์นันเก้ยังระบุว่า สถานการณ์ในปัจจุบันแตกต่างจากช่วงที่เกิดวิกฤตการเงิน และเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ในอดีต ซึ่งมีปัญหาจากมนุษย์ ระบบการเงิน และระบบธนาคาร แต่ปัญหาในครั้งนี้เกิดจากไวรัสโควิด-19
นายเบอร์นันเก้ย้ำถึงความสำคัญในการทำให้ไวรัสโควิด-19 อยู่ภายใต้การควบคุม เพื่อให้นโยบายของเฟดสามารถดำเนินไปได้
นอกจากนี้ นายเบอร์นันเก้ยังกล่าวว่า เจ้าหน้าที่เฟดในชุดปัจจุบันได้ดำเนินการอย่างเหมาะสมเพื่อช่วยให้เศรษฐกิจสหรัฐรับมือล่วงหน้ากับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 และเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ทันทีที่การระบาดของไวรัสโควิด-19 คลี่คลายลง
นักลงทุนยังคงจับตาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ โดยล่าสุดสหรัฐมีจำนวนผู้ติดเชื้อมากกว่า 55,000 ราย และเสียชีวิตมากกว่า 800 ราย
ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป พุ่งขึ้น 1.2% ในเดือนก.พ. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนม.ค.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนจะร่วงลง 0.8% ในเดือนก.พ.
การเพิ่มขึ้นของยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนในเดือนก.พ. ได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของคำสั่งซื้อรถยนต์และรถบรรทุก
ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐาน ซึ่งเป็นคำสั่งซื้อสินค้าทุนที่ไม่รวมเครื่องบิน และสินค้าด้านอาวุธ โดยเป็นสิ่งบ่งชี้แผนการใช้จ่ายของภาคธุรกิจ ลดลง 0.8% ในเดือนก.พ.