ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,200.55 จุด เพิ่มขึ้น 495.64 จุด หรือ +2.39% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,475.56 จุด เพิ่มขึ้น 28.23 จุด หรือ +1.15% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,384.29 จุด ลดลง 33.56 จุด หรือ -0.45%
ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ หลังจากทำเนียบขาวและแกนนำพรรคเดโมแครตในวุฒิสภาสามารถบรรลุข้อตกลงในการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 โดยมาตรการดังกล่าวซึ่งวงเงินสูงถึง 2 ล้านล้านดอลลาร์นี้ ครอบคลุมถึงการจัดสรรเงินกู้วงเงิน 3.67 แสนล้านดอลลาร์ให้กับธุรกิจขนาดเล็ก และสนับสนุนโครงการที่จะจัดสรรเงินให้แก่กระทวงการคลังในวงเงิน 5 แสนล้านดอลลาร์
ภายใต้มาตรการดังกล่าวนี้ ชาวอเมริกันที่เป็นผู้ใหญ่จะได้รับเงินสดโดยตรงคนละ 1,200 ดอลลาร์ ขณะที่เด็กจะได้รับเช็คเงินสดคนละ 500 ดอลลาร์ ส่วนโรงพยาบาลต่างๆจะได้รับการจัดสรรเงินรวม 1.50 แสนล้านดอลลาร์ และธุรกิจขนาดเล็กจะได้รับเงินช่วยเหลือในวงเงินรวม 3.67 แสนล้านดอลลาร์
หุ้นโบอิ้ง ทะยานขึ้น 24.32% โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนคาดหวังว่า รัฐบาลสหรัฐจะยื่นมือช่วยเหลือโบอิ้งซึ่งกำลังประสบปัญหาด้านการเงิน อย่างไรก็ดี ผู้บริหารของโบอิ้งยังคงยืนยันว่า ทางบริษัทจะไม่ยินยอมให้รัฐบาลสหรัฐเข้าถือหุ้นโบอิ้งเพื่อแลกกับความช่วยเหลือในช่วงเวลาที่โบอิ้งเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก
การพุ่งขึ้นของหุ้นโบอิ้งได้ช่วยหนุนหุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มอุตสาหกรรมดีดตัวขึ้นด้วย โดยหุ้นยูไนเต็ด เทคโนโลยีส์ ทะยานขึ้น 10.6% หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ บวก 3.3% หุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก ดีดขึ้น 7.85% หุ้นอีตัน คอร์ป บวก 4.5% หุ้นเอเมอร์สัน อิเล็กทริก พุ่งขึ้น 7.06%
หุ้นกลุ่มสายการบินพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขานรับความหวังเกี่ยวกับความช่วยเหลือจากรัฐบาลสหรัฐเช่นกัน โดยหุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 10.9% หุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 10.5% หุ้นเจ็ทบลู แอร์เวย์ส ทะยานขึ้น 20.6% หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 15.6% หุ้นเซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 4.6%
อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง ซึ่งเป็นปัจจัยฉุดดัชนี Nasdaq ปิดในแดนลบ โดยหุ้นอินเทล ร่วงลง 2.18% หุ้นเฟซบุ๊ก ร่วงลง 2.9% หุ้นแอปเปิล ลบ 0.5% โดยหุ้นไมโครซอฟท์ ลดลง 0.9% หุ้นอเมซอนดอทคอม ร่วงลง 2.8% หุ้นอัลฟาเบท ดิ่งลง 2.5% หุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดิไวซ์ (เอเอ็มดี) ร่วงลง 3.4%
นักลงทุนจับตามาตรการเยียวยาชาวอเมริกันและภาคธุรกิจซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของวุฒิสภาสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนคาดหวังว่า ที่ประชุมวุฒิสภาจะอนุมัติมาตรการดังกล่าว ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
อย่างไรก็ดี วุฒิสมาชิกบางคนของพรรคเดโมแครต ซึ่งรวมถึงนายเบอร์นี แซนเดอร์ส ได้ขู่ว่าจะคัดค้านมาตรการดังกล่าว นอกเสียจากว่าวุฒิสมาชิกของรีพับลิกันจะแก้ไขเนื้อหาในร่างมาตรการดังกล่าวให้เอื้อประโยชน์ต่อการจ้างงานมากยิ่งขึ้น
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยล่าสุดเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป พุ่งขึ้น 1.2% ในเดือนก.พ. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนม.ค.
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2562, กำไรภาคเอกชนไตรมาส 4/2562, ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนก.พ. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน