ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (27 มี.ค.) โดยถูกกดดันหลังจากที่บรรดาผู้นำสหภาพยุโรป (EU) ยังไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งในขณะนี้มีผู้ติดเชื้อทั่วโลกมากกว่า 533,000 คนแล้ว โดยผู้กำหนดนโยบายของ EU ได้ขอเวลาศึกษารายละเอียดอีก 2 สัปดาห์ ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตในอิตาลี, สเปน และฝรั่งเศสยังคงพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ รายงานข่าวที่ว่า นายบอร์ริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีของอังกฤษติดเชื้อโควิด-19 ยิ่งเพิ่มความตื่นตระหนกให้กับนักลงทุน
ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 3.26% ปิดที่ 310.90 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,351.49 จุด ร่วงลง 192.09 จุด หรือ -4.23%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,632.52 จุด ร่วงลง 368.44 จุด หรือ -3.68% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,510.33 จุด ร่วง 305.40 จุด หรือ -5.25%
ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลง เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังที่ผู้นำ EU ยังไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกถ่วงลงหลังมีรายงานข่าวว่า นายบอร์ริส จอนห์สัน นายกรัฐมนตรีของอังกฤษได้ประกาศในวันศุกร์ว่า เขาติดเชื้อโควิด-19 พร้อมกับยืนยันที่จะกักกันตัวเองอยู่แต่ในบ้าน และจะยังคงนำประเทศในการต่อสู้กับไวรัสดังกล่าว
หุ้นกลุ่มรถยนต์ รวมถึงกลุ่มการเดินทางและสันทนาการ ร่วงลงนำตลาด
หุ้นโฟล์คสวาเก้น ร่วง 7.28% หลังนายเฮอร์เบิร์ต ดีสส์ ซีอีโอเปิดเผยว่า บริษัทอาจจะต้องปรับลดการจ้างงาน หากไม่สามารถควบคุมผลกระทบจากโรคระบาด โดยบริษัทยังคงต้องใช้จ่ายเงินราว 2 พันล้านยูโร (2.2 พันล้านดอลลาร์) ต่อสัปดาห์
หุ้นเดมเลอร์ ร่วง 8.06% และหุ้นคาร์นิวาล คอร์ป ดิ่งลง 20.52%
หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลงด้วย หลังสหพันธ์ธนาคารยุโรปเปิดเผยว่า ควรยกเลิกการจ่ายเงินปันผลในปีนี้ เพื่อสำรองเงินทุนไว้ และเพื่อปล่อยเงินกู้ไปจนกว่าผลกระทบของโรคระบาดจะชัดเจนขึ้น โดยหุ้นโซซิเอเต เจเนราล ดิ่งลง 8.03% และหุ้นเอชเอสบีซี ร่วง 5.84%