ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งกว่า 200 จุดในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะดีดตัวขึ้นในคืนนี้ ต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากที่สหรัฐมีมาตรการสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
ณ เวลา 20.13 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 211 จุด หรือ 0.98% สู่ระดับ 21,648 จุด
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศขยายช่วงเวลาในการแนะนำให้ประชาชนเว้นระยะห่างทางสังคมออกไปจนถึงวันที่ 30 เม.ย. โดยมีเป้าหมายที่จะควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยข้อปฏิบัติดังกล่าว ได้รวมถึงการแนะนำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการชุมนุมเกิน 10 คน หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารนอกบ้าน หลีกเลี่ยงการซื้อของนอกบ้าน และให้เด็กเรียนหนังสือจากที่บ้าน
ปธน.ทรัมป์ยังยืนยันความตั้งใจที่จะผลักดันให้มีการเปิดเศรษฐกิจสหรัฐอีกครั้งภายในเทศกาลอีสเตอร์ ซึ่งตรงกับวันอาทิตย์ที่ 12 เม.ย.นี้ พร้อมกับแสดงความเชื่อมั่นว่า สหรัฐจะฟื้นตัวจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ภายในวันที่ 1 มิ.ย.
ขณะเดียวกัน ปธน.ทรัมป์ได้ลงนามในมาตรการเยียวยาผลกระทบทางเศรษฐกิจจากไวรัสโควิด-19 วงเงิน 2.2 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อบังคับใช้เป็นกฎหมาย
นอกจากนี้ ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ยังได้รับปัจจัยบวกจากการที่บริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) แถลงว่า บริษัทจะทำการทดลองวัคซีนต้านเชื้อโควิด-19 ในมนุษย์ในเดือนก.ย.
ทั้งนี้ J&J ได้เตรียมลงทุนเป็นจำนวนเงินมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ร่วมกับสำนักงานพัฒนาและวิจัยยาชีวภาพขั้นก้าวหน้าของสหรัฐ (BARDA) ซึ่งขึ้นกับกระทรวงสาธารณสุขสหรัฐ ในการร่วมกันวิจัยวัคซีนดังกล่าว
ผู้เข้ารับการทดลองวัคซีนของ J&J จะเข้าสู่การทดลองทางคลินิกภายในเดือนก.ย.ปีนี้ และคาดว่าจะมีข้อมูลด้านคลินิกเกี่ยวกับสรรพคุณของวัคซีนก่อนสิ้นปีนี้ และหากวัคซีนดังกล่าวแสดงผลเป็นที่น่าพอใจ ทางบริษัทก็จะทำการผลิตอย่างเพียงพอสำหรับการใช้ฉุกเฉินในต้นปีหน้า
J&J ยังระบุว่า บริษัทจะเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตด้วยการสร้างโรงงานแห่งใหม่ในสหรัฐ และสร้างโรงงานเพิ่มเติมในประเทศต่างๆ เพื่อผลิตและกระจายวัคซีนดังกล่าวอย่างรวดเร็ว