ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (30 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนพากันเข้าซื้อหุ้นกลุ่มปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 1.28% ปิดที่ 314.88 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,378.51 จุด เพิ่มขึ้น 27.03 จุด หรือ +0.62%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,815.97 จุด เพิ่มขึ้น 183.45 จุด หรือ +1.90% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,563.74 จุด เพิ่มขึ้น 53.41 จุด หรือ +0.97%
ตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้นตามตลาดหุ้นวอลล์สตรีทที่เปิดบวกเมื่อคืนนี้ และตลาดได้แรงหนุนจากความเชื่อมั่นเกี่ยวกับมาตรการต่างๆ ในการรับมือกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่นักลงทุนก็ยังคงทำการซื้อขายอย่างระมัดระวัง
นักลงทุนพากันเข้าซื้อหุ้นกลุ่มปลอดภัย โดยหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ปรับตัวขึ้นมากที่สุด ขณะที่หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภค และกลุ่มเทเลคอมปรับตัวขึ้นด้วย
หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้น แม้ราคาน้ำมันยังคงร่วงลงก็ตาม โดยหุ้นบีพี พุ่ง 5.92%, หุ้นเชลล์ บวก 3.92% และหุ้นโททาลของฝรั่งเศส พุ่งขึ้น 6.34%
หุ้นกลุ่มเคมีภัณฑ์ปรับตัวขึ้นด้วย โดยหลายบริษัทได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลง โดยหุ้นเรนโทคิล อินิเชียล และหุ้นโพลีมีทัล อินเตอร์เนชันแนลของอังกฤษ พุ่งขึ้น 6.66% และ 5.93% ตามลำดับ
แต่หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง เนื่องจากธนาคารหลายแห่งปฏิบัติตามการเรียกร้องของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่จะระงับการจ่ายเงินปันผลอันเป็นความพยายามที่จะเพิ่มการปล่อยสินเชื่อ ขณะที่โรคระบาดทำให้สภาพคล่องตึงตัวในยูโรโซน
หุ้นกลุ่มการเดินทางและสันทนาการ ปรับตัวลงด้วย หลังเจพี มอร์แกน คาดว่า ธุรกิจการบินพลเรือนของยุโรปจะทรุดตัวลง 42% ในปี 2563