ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (31 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มพลังงานซึ่งดีดตัวขึ้นตามราคาน้ำมัน และการที่จีนเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการพุ่งขึ้นในเดือนมี.ค. ได้เพิ่มความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ แต่ตลาดร่วงลงรุนแรงที่สุดในไตรมาสแรกนับตั้งแต่ปี 2530
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,671.96 จุด เพิ่มขึ้น 108.22 จุด หรือ +1.95%
ตลาดหุ้นลอนดอนได้แรงหนุนหลังสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนมี.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับ 52 จากระดับ 35.7 ในเดือนก.พ. และดัชนี PMI ภาคบริการเดือนมี.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับ 52.3 จากระดับ 29.6 ในเดือนก.พ. โดยดัชนี PMI ที่เคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตและภาคบริการของจีนมีการขยายตัว
หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้น ขณะที่ราคาน้ำมันทรงตัวหลังจากร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันจันทร์ โดยราคาน้ำมันได้ปัจจัยหนุนจากข่าวผู้นำสหรัฐและรัสเซียเห็นพ้องกันในการจัดการเจรจาเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดน้ำมัน
ทำเนียบเครมลินแถลงว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย เห็นพ้องกันในการจัดการเจรจาเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดน้ำมัน
หุ้นเชลล์ พุ่ง 7.58% และ หุ้นบีพี บวก 3.52%
หุ้นอิมพีเรียล แบรนด์ซึ่งเป็นบริษัทผลิตบุหรี่ พุ่ง 12.29% หลังบริษัทได้รับวงเงินสินเชื่อใหม่ และเปิดเผยว่าธุรกิจของบริษัทยังไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19