ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (1 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นออกมาท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่รุนแรงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หลังจากไอเอชเอส มาร์กิต/ซีไอพีเอส เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหราชอาณาจักร หดตัวลงในเดือนมี.ค.
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,454.57 จุด ร่วง 217.39 จุด หรือ -3.83%
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลง หลังไอเอชเอส มาร์กิต/ซีไอพีเอส เปิดเผยว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหราชอาณาจักร ปรับตัวลงสู่ระดับ 47.8 ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน หลังจากแตะระดับ 51.7 ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.ปีที่แล้ว โดยดัชนี PMI ที่อยู่ต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ภาวะหดตัวของภาคการผลิต หลังจากมีการขยายตัวครั้งแรกในรอบ 10 เดือนในเดือนก.พ.
หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงหนักที่สุดใกล้ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ หลังธนาคารหลายแห่งประกาศระงับการจ่ายเงินปันผลเพื่อสำรองสภาพคล่อง โดยหุ้นเอชเอสบีซี ร่วง 7.52% และหุ้นลอยด์ส ดิ่งลง 10.23%
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวลงด้วย โดยหุ้นเกล็นคอร์ ร่วง 3.52% หลังเลื่อนการจ่ายเงินปันผล 2.6 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้ และเตือนเกี่ยวกับภาวะชะงักงันด้านการผลิตอันเป็นผลจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
หุ้นแองโกล อเมริกัน ร่วง 7.16% และหุ้นริโอ ทินโท ร่วง 3%