ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (2 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานที่ทะยานขึ้นในช่วงท้ายตลาด ขณะที่บรรยากาศการซื้อขายยังคงผันผวน หลังจากสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานพุ่งขึ้นอย่างมาก ซึ่งบ่งชี้ถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.42% ปิดที่ 312.08 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,220.96 จุด เพิ่มขึ้น 13.72 จุด หรือ +0.33%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,570.82 จุด เพิ่มขึ้น 26.07 จุด หรือ +0.27% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,480.22 จุด เพิ่มขึ้น 25.65 จุด หรือ +0.47%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้น โดยได้แรงหนุนจากการทะยานขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นขานรับข่าวที่ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐคาดว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียและมกุฏราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย จะประกาศปรับลดการผลิตน้ำมัน
ก่อนหน้านี้ สงครามราคาน้ำมันระหว่างซาอุดีอาระเบียและรัสเซีย และการคาดการณ์อุปสงค์ที่ลดลง ฉุดราคาน้ำมันดิ่งลงในเดือนที่ผ่านมา และถ่วงหุ้นกลุ่มพลังงานของยุโรปร่วงต่ำสุดในรอบ 24 ปี
หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ พุ่ง 9%, หุ้นโททาล เอสเอ พุ่ง 3.07% และหุ้นบีพี ทะยานขึ้น 5.89%
อย่างไรก็ตาม จำนวนคนว่างงานที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐบ่งชี้ถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจที่รุนแรงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก หลังจากที่เมื่อวันพุธมีการเปิดเผยข้อมูลกิจกรรมการผลิตหดตัวลงในยูโรโซน
เยอรมนี, สเปนและอิตาลี ยังคงดำเนินมาตรการล็อกดาวน์ต่อไปเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และบรรดานักวิเคราะห์คาดว่าผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนหลายแห่งจะถดถอยลงอีกในปีนี้
หุ้นกลุ่มการเดินทางและสันทนาการยังคงร่วงลงหนักที่สุด โดยหุ้นคาร์นิวาล ดิ่งลง 22.34% หลังจากมีรายงานว่าบริษัทพร้อมที่จะเพิ่มทุนเพื่อช่วยพยุงธุรกิจ
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลงด้วย โดยหุ้น Dassault Systemes ซึ่งเป็นบริษัทซอฟท์แวร์ของฝรั่งเศส ร่วง 5.10% หลังเตือนว่า รายได้ของบริษัทในไตรมาสแรกจะลดลง