ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าวันนี้ปรับตัวสูงขึ้น ภายหลังจากที่ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI พุ่งขึ้นกว่า 24% ทะลุระดับ 25 ดอลลาร์เมื่อวานนี้ หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ คาดว่า ซาอุดีอาระเบียและรัสเซียเตรียมปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาด
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 17,873.35 จุด เพิ่มขึ้น 54.63 จุด, +0.31% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,325.39 จุด ลดลง 5.51 จุด, -0.41% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 23,141.47 จุด ลดลง 138.59 จุด, -0.60%
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากรายงานข่าวที่ว่า จีนจะเข้าซื้อน้ำมันเพื่อกักเก็บไว้ในคลังสำรองฉุกเฉิน
ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกขณะนี้อยู่ที่ 1,000,940 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 51,375 ราย
ทั้งนี้ สหรัฐมียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงสุดในโลก (236,036) รองลงมาคืออิตาลี (115,242), สเปน (110,238), เยอรมนี (84,284) และจีน (81,589)
ส่วนอิตาลีเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตสูงสุดในโลก (13,915) ตามมาด้วยสเปน (10,096), สหรัฐ (5,777), ฝรั่งเศส (4,503), จีน (3,318) และอิหร่าน (3,160)
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้มีการเปิดเผยในวันนี้ ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของจีนซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับไฉซิน อยู่ที่ระดับ 43 ในเดือนมี.ค. ซึ่งแม้ว่าดีดตัวขึ้นจากระดับ 26.5 ในเดือนก.พ. แต่ดัชนีที่เคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่า ภาคบริการของจีนยังคงอยู่ในภาวะหดตัว
ทั้งนี้ ภาคบริการของจีนยังคงเผชิญกับความยากลำบากในการฟื้นตัว เนื่องจากได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ต้องมีการปิดร้านค้าจำนวนมาก และล็อกดาวน์ระบบสาธารณะ