ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (9 เม.ย.) โดยบวกขึ้นเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน ขณะที่บรรยากาศการซื้อขายได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบล่าสุด วงเงิน 2.3 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อเยียวยาภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้ บรรดานักลงทุนยังมีความหวังว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ใกล้ถึงระดับสูงสุดแล้ว
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 1.57% ปิดที่ 331.80 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,506.85 จุด เพิ่มขึ้น 64.10 จุด หรือ +1.44%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,564.74 จุด เพิ่มขึ้น 231.85 จุด หรือ +2.24% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,842.66 จุด เพิ่มขึ้น 164.93 จุด หรือ +2.90%
ตลาดหุ้นยุโรปได้แรงหนุนส่วนใหญ่มาจากการที่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทพุ่งขึ้นขานรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบล่าสุดของเฟด
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากข้อมูลที่บ่งชี้ว่า ผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในโรงพยาบาลของฝรั่งเศสชะลอตัวลง ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ในสเปนลดลง
บรรดานักลงทุนจับตายูโรกรุ๊ปอนุมัติมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจยูโรโซนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งหลังจากปิดตลาดยุโรปแล้ว รมว.คลังยูโรกรุ๊ปสามารถบรรลุข้อตกลงความช่วยเหลือวงเงินกว่า 5 แสนล้านยูโร
หุ้นทุกกลุ่มปรับตัวขึ้น นำโดยกลุ่มการเดินทางและสันทนาการ โดยหุ้น Cineworld พุ่งขึ้น 25.90% หลังจากราคาหุ้นดังกล่าวปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง นับตั้งแต่บริษัทประกาศลดค่าใช้จ่ายเมื่อต้นสัปดาห์นี้
หุ้นโซเด็กโซ และหุ้นซาฟรานของฝรั่งเศส ปรับตัวขึ้น 12.90% และ 6.16% ตามลำดับ, หุ้นเอ็มทียู แอโร่ และหุ้นเดมเลอร์ของเยอรมนี เพิ่มขึ้น 7.16% และ 6.10% ตามลำดับ ขณะที่หุ้นเน็กซ์ และหุ้นคาร์นิวาลของอังกฤษ ปรับตัวขึ้น 9.65% และ 9.16% ตามลำดับ