ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าวันนี้ปรับตัวสูงขึ้น ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของราคาน้ำมัน
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 19,265.95 จุด เพิ่มขึ้น 128.00 จุด, +0.67% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 23,948.03 จุด เพิ่มขึ้น 54.67 จุด, +0.23% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,389.68 จุด เพิ่มขึ้น 7.79 จุด, +0.56%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (22 เม.ย.) หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐขู่ว่าจะยิงเรือปืนของอิหร่านทุกลำ หากก่อให้เกิดอันตรายต่อเรือสหรัฐ ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวบ่งชี้ว่าสถานการณ์ระหว่างสหรัฐและอิหร่านอาจกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังดีดตัวขึ้นขานรับรายงานการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา
โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 2.21 ดอลลาร์ หรือ 19.1% ปิดที่ 13.78 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยแล้วในวันนี้ ได้แก่ ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) รายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเกาหลีใต้ ปรับตัวลดลง 1.4% ในไตรมาสแรกของปีนี้เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส โดยเป็นสถิติที่ปรับตัวลงมากที่สุดเมื่อเทียบเป็นรายไตรมาสนับตั้งแต่ไตรมาสสี่ของปี 2551 ซึ่ง GDP ขณะนั้นหดตัวลง 3.3%
ด้านสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในจีนนั้น คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) เปิดเผยว่า ณ วันพุธที่ 22 เม.ย. จีนพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่อีก 10 ราย โดยในจำนวนนี้เป็นผู้ติดเชื้อที่มาจากต่างประเทศจำนวน 6 ราย และไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตรายใหม่
รายงานของ NHC ระบุว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่ภายในประเทศจำนวน 4 รายนั้น มาจากมณฑลเฮยหลงเจียงจำนวน 3 ราย และอีก 1 รายมาจากกวางตุ้ง